บุรีรัมย์ - องค์กรชุมชน อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน ร่วมบริจาคเงิน สิ่งของ เสื้อผ้า และข้าวสาร ช่วย 2 ยายพี่น้องและหลานรวม 5 ชีวิต ฐานะยากจน ถูกไฟไหม้บ้านวอดเสียหายทั้งหลังไร้ที่อยู่อาศัย แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ช่วยเหลือของ ปภ.ขณะ ตชด.นำถุงยังชีพพระราชทานมอบ สร้างความปลาบปลื้มแก่ยายหลาน
วันนี้ (3 ก.ย.) นายสมศรี ทองหล่อ ประธานองค์กรชุมชนตำบลร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายสมจิตร พรมศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ร่อนทอง, ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.สตึก และประชาชน ได้ร่วมกันบริจาคเงิน สิ่งของ เสื้อผ้า และข้าวสาร ช่วยเหลือ นางตาล ชะตารัมย์ อายุ 74 ปี และ นางสา ชะตารัมย์ อายุ 67 ปี สองยายพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.1 บ้านร่อนทอง ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมหลานชายอีก 3 คน ที่กำลังเรียนอยู่โรงเรียนบ้านร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ คือ ด.ช.เดชา การณรงค์ อายุ 9 ขวบ เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3, ด.ช.อภิชาติ เชื่อมรัมย์ อายุ 8 ขวบ เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ ด.ช.โชคชัย รอดตรง วัย 4 ขวบ เรียนชั้นอนุบาล 1 รวม 5 ชีวิต
หลังเกิดเหตุบ้านถูกไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหลังเมื่อเย็นวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา จนหมดเนื้อหมดตัว แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกระทรวงการคลัง ที่ออกระเบียบใหม่กรณีบ้านถูกไฟไหม้เพียงหลังเดียวไม่ถือว่าประสบภัยพิบัติ จึงไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือได้ ทำให้สองยายพี่น้อง และหลานรวม 5 ชีวิต ต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ ทางตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 216 อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ยังได้นำถุงยังชีพพระราชทานมามอบช่วยเหลือยายและหลานที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุอัคคีภัยในครั้งนี้ด้วย สร้างความปลาบปลื้มให้แก่ยายและหลานจนน้ำตาคลอ พร้อมทั้งได้กล่าวขอบคุณผู้ใจบุญและผู้มีจิตศรัทธาทุกคนที่มอบธารน้ำใจช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้มียอดเงินที่ได้รับบริจาคช่วยเหลือรวมกว่า 70,000 บาท โดยในจำนวนนี้ได้นำไปซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างบ้านแล้วบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เงินจำนวนดังกล่าวจะไม่เพียงพอก่อสร้างบ้านได้แล้วเสร็จ แต่ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงน้ำใจของคนไทยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันในยามทุกข์ยาก
นายสมศรี ทองหล่อ ประธานองค์กรชุมชนตำบลร่อนทอง บอกว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นอยากให้ทางภาครัฐนำไปเป็นกรณีตัวอย่างเกี่ยวกับระเบียบหลักเกณฑ์ในการให้ความช่วยเหลือ เพราะบางหลังคาเรือนอาศัยอยู่รวมกันหลายคน และส่วนใหญ่ตามชนบทจะมีฐานะยากจน หากยึดตามระเบียบกรณีได้รับความเสียหายหลังเดียวไม่ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ ก็จะเป็นการซ้ำเติมผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงอยากเรียกร้องกระทรวงการคลัง หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้พิจารณาทบทวนระเบียบหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้ตรงกับสภาพความเป็นจริงด้วย
ด้าน นายสมจิตร พรมศรี นายก อบต.ร่อนทอง กล่าวว่า ในเบื้องต้นทาง อบต.ได้มอบเงินช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน สำหรับกรณีที่ไฟไหม้หลังเดียวแต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือนั้น ทาง อบต.จะได้มีการประชุมหารือกันเพื่อหาแนวทางจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ยายหลานทั้ง 5 ชีวิตอีกครั้ง
