เชียงราย - พบศพครูเหยื่อน้ำป่าซัดจมหาย 4 วัน สุดท้ายเจอลอยในอ่างเก็บน้ำ เผยขับ จยย.ขึ้นดอย 70 กม.ไปสอนหนังสือทุกวัน แต่วันเกิดเหตุนั่งรถเพื่อนหวังไปให้ถึงโรงเรียนเร็วที่สุด แต่กลับไปไม่ถึง
วันนี้ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หน่วยกู้ภัย ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รวมทั้งชาวบ้านระดมกำลังกันค้นหา นายธวัชชัย ดีแป้น อายุ 43 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านใหม่สุขสันต์ ต.ตาดควัน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ที่ถูกน้ำป่าพัดหายไปในลำห้วยห้าบาท ขณะขับรถจี๊ปแคริบเบียน ทะเบียน กข 5965 กระบี่ ไปสอนหนังสือที่โรงเรียน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยค้นหาตั้งแต่จุดเกิดเหตุ จนถึงเก็บน้ำตกควัน บ้านแม่ต๋ำน้ำตก หมู่ 6 ต.ตาดควัน ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นวันที่ 4
ล่าสุด พบร่างของนายธวัชชัย ลอยคว่ำหน้าอยู่ในอ่างเก็บน้ำตาดควัน ริมฝั่งติดกับเกาะกลางอ่างเก็บน้ำ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างขึ้นมาส่งโรงพยาบาลพญาเม็งราย ซึ่งจากการตรวจสอบร่างกาย เบื้องต้นพบว่า เสียชีวิตจากการถูกน้ำป่าพัดจมแน่นอน จากนั้นนำกลับไปบำเพ็ญกุศาลทางศาสนาที่ภูมิลำเนา ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย
ทั้งนี้ นายธวัชชัย มีภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว จ.หนองบัวลำภู รับราชการสอนหนังสืออยู่ที่ จ.เชียงราย 17 ปี โดยเดินทางไปสอนหนังสือจากเขต อ.เมือง ถึง อ.พญาเม็งราย ผ่านป่าเขาเป็นระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นประจำทุกวัน ปกติจะจอดรถยนต์ของตัวเองไว้ข้างทาง และจะขับรถจักรยานยนต์เข้าไปอีกทอด เพราะเส้นทางผ่านภูเขา และถนนสูงชันที่เป็นดินลูกรัง แต่วันเกิดเหตุต้องการไปโรงเรียนให้เร็วที่สุด จึงนั่งรถจี๊ปของเพื่อนเข้าไป กระทั่งถูกน้ำป่าพัดก่อนถึงโรงเรียนเพียงเล็กน้อย
ซึ่งทางต้นสังกัดโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ได้ให้การช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้น 100,000 บาท และเสนอขอรับการช่วยเหลือตามสิทธิ และระเบียบของทางราชการต่อไป
สำหรับเหตุน้ำป่าที่ใน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายธวัชชัย และนายตัน สลีสองสม อายุ 64 ปี ชาวบ้านท่าบันได หมู่ 1 ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เสียชีวิตขณะขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บษ 422 เชียงราย ไปตามถนนบ้านห้วยทรายขาว หมู่ 7 ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย ก่อนถูกน้ำป่าพัดจมน้ำเสียชีวิตเช่นกัน
ส่วนพื้นที่ประสบภัยวันเดียวกันนั้น ส่วนใหญ่กลับสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงบ้านทุ่งเจ้า ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย ประมาณ 200 หลัง วัด 1 แห่ง และโรงเรียนริมลำน้ำแม่ต๊าก ประชาชนริมฝั่งยังคงเดือดร้อนอยู่