ประจวบคีรีขันธ์ - อธิบดีกรมป่าไม้ บินสำรวจการบุกรุกป่าในหัวหิน ทั้งขออนุญาต อยู่ระหว่างขออนุญาตใช้ประโยชน์ และพื้นที่ร้องเรียนมีการบุกรุก ล่าสุด สั่งระงับการก่อสร้างในพื้นที่ป่าทั้งหมด รอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
วันนี้ (24 ส.ค.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ปทส.) พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 15 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ป่าไม้ในเขต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับรายงานว่า มีการบุกรุกแผ้วถาง ตลอดจนการขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ ตามมาตรา 4(1) พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484
โดยได้บินสำรวจบริเวณป่าเขาช่องประดู่ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน และป่าในแนวเทือกเขาหินเหล็กไฟ ต.หินเหล็กไฟ ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบพื้นที่ป่าทั้งที่มีการขออนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ อยู่ระหว่างการขอใช้ประโยชน์ และพื้นที่มีการร้องเรียนว่าบุกรุกทำลายป่า ทั้งนี้ ในส่วนที่ขออนุญาตแล้วต้องดูว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีหลายจุดที่มีการบุกรุกชัดเจน บางส่วนมีความลาดชันเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และพบการเข้าไปแผ้วถาง สร้างทาง ตลอดจนปรับพื้นที่บนภูเขาให้เป็นพื้นที่ราบ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาคพื้นดิน โดยจุดแรกที่พื้นที่เช่าป่าเขาช่องประดู่ มีนายวรพจน์ ลิมาคม เป็นผู้ขอเช่าทำประโยชน์ พบว่า มีการทำถนนปูนซีเมนต์วนรอบพื้นที่ขอเช่าไว้ รวมทั้งก่อสร้างอาคารบ้านพัก 17 หลัง โดยนายวรพจน์ ขอเช่าพื้นที่ 44 ไร่ และขออนุญาตแผ้วถางเพื่อทำโครงการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
เบื้องต้น นายธีรภัทร ได้ขอให้ผู้เช่าระงับการก่อสร้าง เพื่อขอตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดก่อน เพราะก่อนหน้านี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
จุดที่ 2 บริเวณป่าหินเหล็กไฟ หมู่ 7 ต.หินเหล็กไฟ พบมีการปรับพื้นที่ภูเขาเพื่อทำเป็นจุดชมวิว เห็นทะเลหัวหินได้อย่างชัดเจน รวมถึงสร้างบ้านสำหรับอยู่อาศัย 1 หลัง ที่บริเวณพื้นราบเชิงเขา มีนายจักรี พูลนำเภา เป็นผู้ดูแล และขอเช่าจากกรมป่าไม้ ซึ่งผู้เช่า คือ หจก.สามคิงส์การโยธา มากว่า 10 ปีแล้ว โดยครั้งแรกได้ขอเช่า 64 ไร่ โดยมีเงื่อนไขถ้าทับซ้อนที่ดินทำกินของชาวบ้านให้กันพื้นที่ออก แต่กว่าจะได้รับอนุญาตก็กลายเป็นป่าที่ครอบครองทำกิน และสามารถออกเอกสารสิทธิได้ ซึ่งปัจจุบันถูกกันพื้นที่ออกเหลือเพียง 24 ไร่เท่านั้น
นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบพื้นที่ป่าด้านหลังคอนโดมิเนียม สนามกอล์ฟแบล็ค เมาท์เทน หัวหิน ต.หินเหล็กไฟ ที่ขอเช่าพื้นที่ 613 ไร่ โดยขอใบอนุญาตแผ้วถางแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน
นายธีรภัทร กล่าวว่า กรมป่าไม้ได้พื้นที่คืนแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ไร่ จาก จ.ภูเก็ต สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี และพิษณุโลก โดยจะขยายไปยังจังหวัดอื่นด้วย จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่เตรียมจะเข้าไปทำประโยชน์ในพื้นที่ป่า ให้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน ต้องเป็นเอกสารสิทธิที่ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีอย่างแน่นอน โดยหลังจากนี้ จะได้รวบรวมข้อมูลการตรวจสอบทั้งหมดรายงานต่อปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป