กาญจนบุรี - น้ำใจคนไทยเริ่มหลั่งไหลบริจาคเงินคนละเล็กละน้อยช่วยเหลือชายวัยรุ่นอายุ 19 ปี น้ำใจงามที่ประสบอุบัติเหตุถูกไฟคลอกจนพิการ ขณะเข้าช่วยเพื่อนบ้านดับไฟไหม้ไร่อ้อย ล่าสุด เงินบริจาคทะลุกว่า 1 หมื่นบาทแล้ว
จากกรณีวันที่ 22 ส.ค.57 ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอเรื่องราวครอบครัวของ นายวิชาญ นุชทอง อายุ 47 ปี นางสมยง ปรางแดง อายุ 48 ปี 2 สามีภรรยา อาชีพทำไร่ และรับจ้างทั่วไป ฐานะทางบ้านยากจน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 16 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ต้องสลับกันออกไปทำงานหักข้าวโพดเพื่อหาเงินมาซื้อยารักษาลูกชายชื่อ นายฤทธิพล นุชทอง อายุ 19 ปี ที่ถูกไฟไหม้ขณะไปช่วยเหลือเพื่อนบ้านดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ไร่อ้อย เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 จนร่างกายพิการ ต้องทุกข์ทรมานทนปวดแสบ ปวดร้อนจากบาดแผลที่พุพองเป็นหนอง
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (23 ส.ค.) นายวิชาญ นุชทอง พ่อของ นายฤทธิพล เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้นำเสนอข่าวออกไป ได้มีประชาชนคนไทยที่ทราบข่าวโทรศัพท์เข้ามาสอบถามอาการของลูกชายเป็นจำนวนมาก บางคนบอกว่าจะหาเวลาว่างมาเยี่ยมลูกชายที่บ้าน และบางรายบอกว่าสงสาร และเห็นใจมาก แต่ไม่สามารถจะเดินทางมาเยี่ยมได้เนื่องจากบ้านอยู่ต่างจังหวัดที่อยู่ไกลกัน แต่จะโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อให้ความช่วยเหลือตามกำลังที่มีอยู่ จนถึงขณะนี้ก็ยังมีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามอาการของลูกชายอย่างต่อเนื่อง
และช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ให้หลานสาวนำสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาด่านช้าง บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 288-2-57080-3 ชื่อบัญชี นายฤทธิพล นุชทอง ลูกชายไปเช็กดู พบว่า มียอดเงินบริจาคเข้ามาแล้วรวมกันจำนวนประมาณ 13,000 บาท และเงินทุกบาทจะเก็บไว้เป็นค่ารักษาลูกชาย โดยจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับซื้อยาล้างแผล และยาแก้ปวดตามที่หมอแนะนำ ซึ่งค่าใช้จ่ายตกวันละ 300 บาท ถึง 400 บาท ตนและภรรยาต้องขอกราบขอบคุณคนไทยทุกคนแทนลูกชายมา ณ ที่นี้ด้วย
“ความหวังสูงสุดของผม และภรรยา คือ เพียงต้องการให้ลูกชายหายกลับคืนมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ถึงแม้จะใช้เวลาอีกกี่ปีก็ตาม และหากลูกชายสามารถกลับมาเดิน หรือพอช่วยเหลือตัวเองได้ หากเขาต้องการเรียนหนังสืออีก ผมกับภรรยาก็จะช่วยเหลือเขาอย่างถึงที่สุด” นายวิชาญ นุชทอง พ่อของนายฤทธิพล เผย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยา สุนทโรทก อาจารย์โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 3 อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ผู้ที่นำภาพถ่ายของนายฤทธิพล นุชทอง ที่นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อให้กลุ่มเพื่อนช่วยกันบริจาคเงินช่วยเหลือ แจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบว่า วันที่ 24 ส.ค. แม่ค้าพ่อค้า และคณะอาจารย์จำนวนหนึ่งมีความประสงค์จะเดินทางไปเยี่ยมนายฤทธิพล ที่บ้านพัก และจะรวบรวมเงินคนละเล็กละน้อยมอบให้แก่ครอบครัว เพื่อเก็บเอาไว้เป็นค่าใช้จ่าย ถึงแม้จะไม่มากนัก แต่ทุกคนมีความรู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือครอบครัวนี้เป็นอย่างมาก และต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวนี้ออกไปให้ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี และคนไทยทราบ เพราะทำให้ครอบครัวนี้บรรเทาความเดือดร้อนได้บ้างไม่มากก็น้อย