จันทบุรี - อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ร่วมกับตำรวจ ทหาร โรงพยาบาล อส. และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัย จัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์การเกิดน้ำป่าไหลหลาก เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการเข้าช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง
วันนี้ (21 ส.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี นายชิษณุพงศ์ พหรมสัมฤทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ อส. โรงพยาบาลแหลมสิงห์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว และเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี ได้ร่วมกันฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์การเกิดน้ำป่าไหลหลาก โดยมีการสมมติว่าเกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอุทยานแห่งชาติ ได้รายงานสถานการณ์น้ำป่าทางวิทยุ ว่า สถานการณ์อยู่ในระดับที่ 5 ควรอพยพนักท่องเที่ยวออกจากลำธารน้ำทุกจุด เจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณไซเรน และเสียงประกาศเตือนภัยทางเสียงตามสายติดต่อกัน 3 รอบ และประกาศต่อเนื่องเป็นระยะๆ ทุกชั่วโมง โดยเจ้าหน้าที่ประจำจุดรายงานทางวิทยุต่อหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ว่า มีนักท่องเที่ยวติดค้างอยู่ฝั่งลำธาร จำนวน 5 คน และในจำนวนนี้มี 1 คน มีอาการบาดเจ็บ
หลังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติได้รับทราบข้อมูล จึงได้สั่งการทางวิทยุให้เจ้าหน้าที่อพยพนักท่องเที่ยวออกจากลำธารทุกแห่ง ขึ้นไปยังพื้นที่สูงที่มีความปลอดภัย และให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ แจ้งทีมกู้ภัยประจำอุทยานฯ ให้เตรียมการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย และประสานขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานประสานงานกู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 1 (ภาคตะวันออก) หน่วยกู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี โรงพยาบาลแหลมสิงห์ และหน่วยงานของเทศบาลตำบลพลิ้ว เพื่อร่วมปฏิบัติการช่วยเหลืออพยพและปฐมพยาบาล
จากนั้นให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บิการนักท่องเที่ยว ประกาศเสียงตามสายเพื่อให้นักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับทราบข้อมูล และเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเป็นปกติ จากนั้นทุกหน่วยได้เข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายอพยพนักท่องเที่ยว และประชาชนออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ก่อนที่จะมีรายงานสถานการณ์ให้ทราบตามลำดับชั้นต่อไป
สำหรับการจัดซ้อมแผนในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการทำหน้าที่อย่างเป็นขั้นเป็นตอนตามลำดับ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง เจ้าหน้าที่ก็จะได้ช่วยเหลือประชาชน และนักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที และปลอดภัยอีกด้วย
