สระแก้วจัดโครงการรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว จัดโครงการรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองผู้หญิงและเด็กในครอบครัวจากการถูกกระทำความรุนแรง

วันนี้ (20 ส.ค.) ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมโครงการรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก เพื่อลดความรุนแรงในครอบครัว เพื่อสร้างกระแสสังคมให้ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงผู้หญิง เด็ก และความรุนแรงในครอบครัว

ทั้งนี้ เนื่องจากพระภารกิจที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงรับเป็นองค์ทูตสันถวไมตรีด้านยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก ทรงนำประเทศไทยเป็นประเทศผู้มีบทบาทในการผลักดันการยกร่างยุทธศาสตร์ต้นแบบ และมาตรการเชิงปฏิบัติว่าด้วยการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

ด้วยเหตุนี้ สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสระแก้ว จึงรับสนองแนวพระราชดำริมาดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

จัดโครงการกิจกรรมรณรงค์การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กขึ้น เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองผู้หญิงและเด็กในครอบครัวจากการถูกกระทำความรุนแรง เพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา โดยมีนักศึกษา พ่อค้า ประชาชนทั่วไป และหน่วยงานราชการ จำนวน 500 คน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

นายนันธวัตร ฐิติภัค อัยการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระองค์ทรงสนพระทัยในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างใกล้ชิด หากประชาชนประสบปัญหาทุกข์ร้อนในเรื่องใด ทั้งปัญหาประสบภัยจากธรรมชาติ ปัญหาการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงในเรือนจำ ปัญหาการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดในเรือนจำ ที่มารดาเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำ

และมีหลายปัญหาที่พระองค์ได้ทรงเข้าไปเยี่ยมเยียน แก้ไขปัญหาด้วยพระองค์เอง และมีปัญหาหนึ่งที่พระองค์ทรงห่วงใย และตั้งพระทัยที่จะเข้าไปแก้ปัญหา คือ ปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อผู้หญิง เพราะโดยกายภาพทางธรรมชาติของผู้หญิงแล้ว จะมีสภาพร่างกาย และจิตใจแตกต่างจากเพศอื่น หลายครั้งที่ผู้หญิงถูกรังแก ถูกใช้ความรุนแรง ถูกเอาเปรียบ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย ทางวาจา หรือจิตใจ

พระองค์ทรงเมตตาตอบรับเป็นทูตสันถวไมตรีจากองค์การยูนิเซฟเฟรม ในโครงการ say no to violence against women ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น องค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นวีเมน