เลย - มอบตัวแล้วผู้ต้องหาข่มขืนเด็กหญิงวัย 14 ปีที่ภูกระดึง ขณะที่รอง ผกก.ภูกระดึงโต้ญาติฝ่ายผู้เสียหายทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมายทุกขั้นตอน ส่วนผลการสอบสวนผู้ต้องหาปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน แต่เด็กหญิงสมยอมเพราะไปหาที่บ้านแทบทุกวัน
เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันนี้ (20 ส.ค.) ที่ห้องประชุมอำเภอภูกระดึง จ.เลย นายศรีธรรม ราชแก้ว นายอำเภอภูกระดึง พ.ต.ท.ปราโมทย์ ตระกูลโชคเสถียร รอง ผกก.สส.สภ.ภูกระดึง พร้อม ร.ต.อ.ผดุงเกียรติ จู้ดศรี พงส.สภ.ภูกระดึง เจ้าของคดีได้นำตัวนายอังกฤษ พรมมา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ที่ 4 บ้านห้วยไผ่ ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จ.เลย ผู้ต้องหาข่มขืนเด็กหญิงอายุ 14 ปี มาแถลงข่าวภายหลังจากผู้ต้องหายอมเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยในช่วงที่มีการแถลงข่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ชี้แจงญาติฝ่ายผู้เสียหายว่า หลังเกิดเหตุและรับแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่กี่วันนางรุ่งนภา (ขอสงวนนามสกุล) ได้นำ ด.ญ.แอน (นามสมบุตร) บุตรสาว อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ภูกระดึง จ.เลย เข้าร้องเรียนต่อนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ว่าบุตรสาวถูกนายอังกฤษ พรมมา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 4 บ้านห้วยไผ่ ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จ.เลย ข่มขืนกระทำชำเราบุตรสาวหลายครั้ง
โดยหลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูกระดึง แต่ร้อยเวรกลับไม่รับแจ้งความและไม่ได้ดำเนินการใดๆ จนกระทั่งเวลาผ่านมานานกว่า 1 เดือนยังไม่มีความคืบหน้าทางคดี ไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ทั้งที่ทราบหลักแหล่งที่พัก
พ.ต.ท.ปราโมทย์ ตระกูลโชคเสถียร รอง ผกก.สส.สภ.ภูกระดึง เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าทุกข์เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 57 และได้พาผู้เสียหายไปตรวจชันสูตรร่างกายที่โรงพยาบาลภูกระดึง ต่อมาในวันที่ 29 ก.ค. 57 ได้นำผู้เสียหายไปให้การต่อหน้าอัยการจังหวัดและนักสังคมสงเคราะห์ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเพราะผู้เสียหายยังเป็นเด็ก
ขณะเดียวกันเราได้ขอออกหมายเรียกผู้ต้องหาและหมายเรียกได้ออกเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปให้ที่บ้านผู้ต้องหา ให้มาพบพนักงานสอบสวนวันที่ 18 ส.ค. 57 แต่ผู้เสียหายไม่มา จึงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 วันที่ 19 ส.ค. 57 ให้ผู้ต้องหามาพบ และผู้ต้องหาก็มาพบตามนัดและได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้มีอะไรกับเด็กจริง แต่ไม่ได้ข่มขืนเด็กมาหาที่บ้านทุกวัน
อย่างไรก็ตาม จากผลการตรวจชันสูตรของแพทย์ระบุว่า ผลตรวจภายในพบเยื่อพรหมจารีของผู้เสียหายฉีกขาด ไม่พบบาดแผลภายนอก ไม่พบเชื้ออสุจิในช่องคลอด พร้อมแสดงความคิดเห็นต่อท้ายว่าไม่พบหลักฐานว่ามีการกระทำชำเรา
