ตราด - ทพ.นย.531 ลาดตระเวนพบกลุ่มกำลังไม่ทราบฝ่าย ลักลอบตัดไม้พะยูงจนเกิดปะทะกันดุเดือด จนคนร้ายหลบหนีไป เข้าตรวจยึดไม้พะยูงได้ 7 ท่อนใหญ่ และอีก 3 ท่อนที่แปรรูปแล้ว
เรือเอกวิชัย หีบนาค หัวหน้าชุดทหารพรานนาวิกโยธิน 531 (ทพ.นย.531) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ช่วงค่ำเวลาประมาณ 19.00 น. ได้ส่งกำลังทหารพราน จำนวน 3 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบที่ห่างจากฐานประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการลาดตระเวนตามหน้าที่ จนกระทั่งเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้แจ้งมาว่า ได้ยินเสียงมีการตัดไม้ ตนจึงได้ส่งกำลังขึ้นไปเพิ่มพร้อมออกไปปฏิบัติหน้าที่ด้วย รวมจำนวนทหารพรานทั้งหมด 14 นาย
เรือเอกวิชัย เปิดเผยต่อว่า เมื่อเข้าไปถึงจุดที่คนร้ายกำลังเลื่อยไม้อยู่ จึงได้กระจายกำลังล้อมไว้และตะโกนสั่งให้คนร้ายหยุด แต่คนร้ายได้ยิงปืนเข้าใส่ ทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ 1 นัด แต่กลุ่มคนร้ายไม่ยอมหยุด และยิงปืนใส่อีก ตนจึงสั่งยิงตอบโต้กลับไปจนเกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที กลุ่มคนร้ายจึงได้ถอยหลบหนีไป จากนั้นจึงได้เฝ้าพื้นที่ไว้เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน และในเช้าวันนี้ (14 ส.ค.) จึงเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบ พบไม้พะยูงที่คนร้ายโค่นแ ละตัดเป็นท่อนแล้ว จำนวน 7 ท่อน มีความยาวท่อนละ 7 เมตร มีขนาดความกว้าง 6x6 นิ้ว ที่ยังไม่ได้มีการแปรรูป และไม้พะยูงท่อนที่มีการแปรรูปแล้วอีก 3 ท่อน มีความยาวท่อนละ 1.10+1.50 เมตร นอกจากนี้ ยังพบอุปกรณ์ เช่น เลื่อยยนต์ ถังน้ำมันเบนซินขนาดบรรจุ 5 ลิตร จำนวน 2 ถัง เลื่อยชักมือ 1 เส้น หมวกทหารกัมพูชา 3 ใบ แบตเตอรี่วิทยุสื่อสารไอคอม 2 ก้อน ถ่าน A3 มีดขอ ผ้าใบ รองเท้า ไฟฉายส่องติดศีรษะ จึงได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไว้ ส่วนไม้พะยูงที่แปรรูปแล้ว 3 ท่อน เป็นไม้เก่าที่คนร้ายได้แปรรูปเพื่อทำการขนย้าย จึงได้ให้ทหารพรานขนออกมาเก็บไว้ ส่วนอีก 7 ท่อน มีขนาดใหญ่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปตรวจสอบ และขนย้ายออกมา
เรือเอกวิชัย กล่าวอีกว่า คนร้ายทั้งหมดน่าจะมีประมาณ 5 คน และใช้อาวุธปืนอาก้า AK47 เนื่องจากคุ้นกับเสียงปืน ช่วงที่ปะทะกันไม่มีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บ โดยกลุ่มคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้ทั้งหมด ส่วนผู้ที่เข้ามาตัดไม้นั้นไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นทหาร หรือชาวบ้านกัมพูชา