ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจรวบหนุ่มอดีตนักมวยไทยตระเวนงัดตู้น้ำหยอดเหรียญและตู้บริจาคตามวัดทั่วเมืองเชียงใหม่ หลังแกะรอยกล้องวงจรปิดควานหาตัว สารภาพหาเงินซื้อนมให้ลูกอายุขวบกว่ากินและใช้จ่ายในครอบครัว ยอมรับก่อเหตุหลายพื้นที่รวมแล้วนับร้อยครั้ง
วันนี้ (13 ส.ค.) พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่(รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ แถลงผลการจับกุมตัวนายสุรชาติ บัวสุข อายุ 30 ปี อดีตนักมวยไทย อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 3 ต.น้ำพี้ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาที่ตระเวนก่อเหตุงัดตู้น้ำหยอดเหรียญและตู้บริจาคตามวัดต่างๆ ทั่วเมืองเชียงใหม่ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อกที่ใช้ก่อเหตุ และเงินเหรียญชนิดต่างๆ จำนวนมาก ที่ได้จากการก่อเหตุ
การจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุงดตู้น้ำหยอดเหรียญหลายคดี จึงทำการสืบสวนติดตามคนร้ายมาโดยตลอดจนทราบตำหนิรูปพรรณคนร้ายและพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ
กระทั่งวานนี้ (12 ส.ค.) ได้รับแจ้งพบตัวผู้ต้องสงสัยอยู่ในวัดศรีสุพรรณ ในตัวเมืองเชียงใหม่ จึงได้เข้าตรวจสอบ ซึ่งพบนายสุรชาติ ที่พยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้และทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและภาพนิ่งของคนร้ายที่เคยก่อเหตุมาหลายคดีดังกล่าว พบว่าเป็นนายสุรชาติ ซึ่งก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายดังกล่าวจริง
นายสุรชาติได้พาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจห้องพักของตัวเองในโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมนำกล่องบรรจุเหรียญจำนวนมากมามอบให้เจ้าหน้าที่ ระบุว่าได้มาจากการงัดตู้น้ำหยอดเหรียญและตู้บริจาคตามวัดต่างๆ ในหลายพื้นที่ ซึ่งเฉพาะในพื้นที่ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ครั้ง โดยไม่นับรวมการก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีกรวมแล้วนับร้อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งได้เงินประมาณ 200-400 บาท
นอกจากนี้ นายสุรชาติสารภาพว่า ก่อเหตุเนื่องจากตัวเองไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แม้จะเคยมีอาชีพชกมวยไทยแต่ก็มีรายได้ไม่เพียงพอและเพิ่งพ้นโทษออกมาจากคุกได้ประมาณ 2 ปี ทำให้ไม่มีคนรับเข้าทำงาน ประกอบกับมีภรรยาและลูกที่ต้องเลี้ยงดู จึงตระเวนก่อเหตุงัดตู้น้ำหยอดเหรียญและตู้บริจาคตามวัดต่างๆ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว และซื้อนมให้ลูกอายุขวบกว่ากิน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวดำเนินคดีและเตรียมสืบสวนขยายผลต่อไป