พิษณุโลก/เชียงใหม่ - พระครูวัดดังเมืองสองแควชี้ชัด “เสี่ย อ.” พร้อมน ศ.ชาย เคยติดต่อให้ร่วมทำพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” แต่ไม่เอาด้วย พร้อมเตือนคนทำในสิ่งที่ “ตามองไม่เห็น” อาจอายุสั้น สุดท้ายใช้คนนิมนต์เกจิเททองแทน ขณะวัดที่เข้าร่วมรับมอบองค์พระเกือบครึ่งหมื่น
เรื่องราวของพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” ที่มีการทุ่มงบซื้อโฆษณาผ่านสื่อกระแสหลักทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวีช่องใหญ่หลายช่อง พร้อมติดป้ายโหมกระแสพิธีปลุกเสก โดยพระเกจิอาจารย์ทั่วภาคเหนือ รวมไปถึงพระชั้นผู้ใหญ่ของเชียงตุง รัฐฉาน ประเทศพม่า
พร้อมระบุว่า วัดใหญ่ 4 วัดในภาคเหนือร่วมจัดสร้าง ทั้งวัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ วัดพระธาตุหริภูญไชย วรมหาวิหาร จ.ลำพูน วัดศรีดอนชัย อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน วัดศรีชุม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย รวมทั้งองค์การนักศึกษา (อนศ.) มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) พิบูลสงคราม พิษณุโลก
จึงสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้แก่เซียนพระเครื่องทั่วประเทศอย่างไม่สิ้นสุด
ยิ่งเมื่อ มรภ.พิบูลสงคราม และ อนศ. ที่ก่อนหน้านี้มีชื่อร่วมจัดสร้างด้วย ออกมาประกาศยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องใดๆ ต่อการจัดสร้างพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” และวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา นักศึกษาชายหญิงของ มรภ. 5 คนแต่งชุดนักศึกษา นำพระราว 10 กล่อง ประมาณ 4,000 องค์ ไปแจกหน้าพระราชวังจันทน์ แต่อ้างว่าไม่ใช่แจกพระในนาม อนศ. แดละพลิ้วไปว่าแจกในนาม “อุปนายก อนศ.” จนถูกทางฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ หิ้วไปสอบถามข้อเท็จจริงบน สภ.เมือง หลังแจกไปได้เพียง 200 องค์
ยิ่งทำให้กระแสพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” ดังกระหึ่ม จนรองอธิการบดี มรภ.พิบูลสงคราม เรียกตัวนักศึกษาคนดัง คณะครุศาสตร์ ปี 3 ตำแหน่ง อุปนายก อนศ. มาถามว่าไปเกี่ยวข้องกับคนทำพระได้อย่างไร
คำตอบ คือ เขารู้จัก “เสี่ย อ.” มาก่อน ส่วนสัมพันธ์ลึกซึ้งหรือไม่นั้น ไม่ทราบ เมื่อถามอีกว่า ไม่รังเกียจหรือ เขาตอบว่า “ทำพระผิดตรงไหน”
ขณะที่พระครูวัดธรรมจักร จ.พิษณุโลก พระรูปหนึ่งเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เสี่ย อ. เคยมาหาหลวงพ่อถึงกุฏิพร้อมกับเด็กหนุ่ม อ้างว่าเป็นนายก อนศ. เพื่อติดต่อทำพระร่วมกับวัดธรรมจักร เขาจะให้เป็นแม่งาน เป็นผู้จัดทำ ถ้าร่วมมือจะให้เป็นผู้จัดการ อีกทั้งจะให้หลวงพ่อไปเดินเรื่องเอาพระไปปลุกเสกที่วัดใหญ่ (วัดพระศรีรัตนมหาวรมหาวิหาร)
แต่หลวงพ่อไม่เอา บอกเขาไปว่า “ไม่ร่วมมือ”
หลวงพ่อ บอกว่า “ไม่ดี เรื่องที่ตามองไม่เห็น”
ตอนนั้นหลวงพ่อพูดว่า “ลูกนะ...ทำสิ่งที่ตามองไม่เห็น ที่เกี่ยวข้องกับ 2 ชื่อ คือ พระพุทธชินราช กับสมเด็จพระนเรศวร ถ้าไปทำส่วนตัว ไปแอบอ้าง อายุสั้นนะ ตัวอย่างมีเยอะ แต่ถ้าทำเป็นส่วนราชการไม่เป็นไร ถ้าทำส่วนตัวแอบอ้าง อายุสั้น”
จากนั้นหลวงพ่อก็ไม่เจอหน้า “เสี่ย อ.” อีกเลย
ว่ากันว่าสูตร “เสี่ย อ.” ไม่ว่าทำพระที่ไหน เช่น ลพบุรี แปดริ้ว นครสวรรค์ ใครร่วมมือด้วยก็จะแบ่งพระไปจำหน่ายเอาเอง ส่วนเงินจองเป็นเงินสด เขากวาดไปทั้งหมด สรุปคือ ให้พระมาจำหน่าย แล้วตีมูลค่าพระแลกไป ไม่ได้ช่วยอะไรกับวัด หรือองค์กรที่ร่วมด้วย
นับจากเสี่ย อ. หนีหน้าจากหลวงพ่อวัดธรรมจักร ไปนานนับเดือน ต่อมาทางอง อนศ.มรภ.พิบูลสงครามพิษณุโลก ก็มานิมนต์หลวงพ่อไปร่วมพิธีสวดมนต์ที่พระราชวังจันทน์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่างานนี้ (ปลุกเสกเททองหล่อพระกริ่ง) รู้เมื่อไปถึงพระราชวังจันทน์แล้ว พระที่ไปร่วมสวดมนต์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า ของ “เสี่ย อ.”
วันนั้น เริ่มพิธีราว 10.00 น. มีพราหมณ์ร่วมทำพิธี และพระร่วมสวดมนต์ประมาณ 9-10 รูปมาจากวัดต่างๆ เช่น วัดราชบูรณะ วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก และมีพระที่นั่งปรกตาม 4 มุม เป็นพระเกจิภาคเหนือ และพระที่วัดอรัญญิก วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก พร้อมกับเครื่องบวงสรวงเสร็จสรรพ หลักๆ คือ ทำพิธีเททอง
จากนั้นก็ฉันเพล และถวายซองรูปละ 5,000 บาท แต่วันนั้นไม่มีใครเห็น “เสี่ย อ.” ไปปรากฏตัวร่วมพิธีด้วยแต่อย่างใด
ขณะที่วัดพระสิงห์วรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่มีการเปิดวิหารลายคำ ปลุกเสกพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” ไปเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียด้วยว่า มีพระสงฆ์ร่วมพิธีมากถึง 5,000 รูป มีรายงานว่า ทางวัดได้โควตาพระกริ่งมากว่า 4,000 องค์ ซึ่งพระกริ่งชุดนี้จะมีโลโกวัดอุดใต้กริ่งด้านล่างทุกองค์
ล่าสุด ทางวัดได้นำพระกริ่งดังกล่าวมามอบให้แก่ผู้ที่บริจาคเงินร่วมซื้อทองจังโก้หุ้มองค์พระธาตุ
พระกริ่งดังกล่าวมีทั้งหมด 3 รุ่น คือ รุ่นหล่อบน (องค์ดำ) รุ่นหล่อล่าง และรุ่นหล่อเหลือ ซึ่งรุ่นองค์ดำ คล้องจองกับพระฉายานามของสมเด็จพระนเรศวร คือ “พระองค์ดำ” มีจำนวนเพียงกว่า 200 องค์เท่านั้น
ทางวัดจึงนำพระกริ่งองค์ดำมาใส่ในกล่อง ปนกับรุ่นหล่อเหลือที่มีจำนวนมาก ให้ผู้บริหารเงินล้วงเสี่ยงโชคในกล่อง โชคดีก็จะได้องค์ดำหล่อบน แต่ส่วนใหญ่จะได้รุ่นหล่อเหลือไปบูชาแทบทั้งสิ้น
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวแง่ลบตามสื่อ ไม่มีผลกระทบต่อรุ่นที่สร้างที่วัดพระสิงห์วรวิหาร เพราะผู้บริจาคส่วนใหญ่ต้องการทำบุญ จึงมาเช่าไปเก็บไว้เพื่อบูชา ซึ่งขณะนี้ยังมีพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” นาม “พระสิงห์” เหลือไม่ต่ำกว่า 2,000 องค์
บางคนถึงกับนำพระ “กรุเวียงกาหลง” ของ จ.เชียงราย มาแลกพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” กับพระที่ดูแลการรับบริจาคด้วยซ้ำ
ขณะที่วันปลุกเสกพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” ในพระวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ ว่ากันว่าระหว่างพิธีปลุกเสก และทำพิธีบวงสรวง ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดอย่างอัศจรรย์
เมื่อเสร็จพระพิธีมีการนำพระกริ่งออกให้ประชาชนได้เช่าบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลองค์ละ 2,500 บาท ซึ่งมีประชาชนมาเข้าแถวต่อคิวเช่ายาว ตั้งแต่หน้าวิหารลายคำ จนล้นออกไปนอกวัด
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” เป็นที่น่าสังเกตว่า จะผิดจากการปลุกเสกพระเครื่องรุ่นอื่น ที่จะเวียนไปตามวัดต่างๆ ให้ครบทุกวาระ ก่อนจะนำมาเปิดให้บูชา
แต่พระรุ่นนี้ปลุกเสกวัดไหน ก็จะปล่อยบูชาทันทีเพียงวาระเดียว และไม่ได้แจ้งว่าให้บูชา แต่เป็นการบริจาคร่วมก่อสร้าง หรือบูรณะสิ่งใดสิ่งหนึ่งก่อน โดยกำหนดจำนวนเงินบริจาค แล้วจึงจะได้รับพระดังกล่าวมาครอบครอง
แน่นอนพระกริ่งนเรศวร “ขึ้นเหนือ” ที่มอบให้แต่ละวัดที่ร่วมพิธีนำออกให้เช่าบูชานั้น ไม่รวมพระที่เปิดให้เช่าบูชาทางไปรษณีย์องค์ละ 2,500 บาท
ซึ่งยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่ามีอีกมากน้อยเพียงใด
คงต้องรอคำเฉลยจากปาก “เสี่ย อ.” ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับ “เสี่ยอู๊ด” หรือ หรือ “สิทธิกร บุญฉิม” นักสร้างพระชื่อดังที่เคยก่อคดีอื้อฉาวจนติดคุกจากกรณี"พระสมเด็จเหนือหัว"หรือเปล่า!!!