คนขับรถเครนเข้าให้ปากคำตำรวจ พร้อมขอโทษเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนขับรถเครนเข้าให้ปากคำตำรวจ เหตุเครนยักษ์ล้มทับรถตู้ดับ 1 ราย ยันเกิดจากลมกระโชกจนเเสียการทรงตัว พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากกรณีที่รถเครนล้มบนถนนวอเตอร์เวย์สาย 7 ตอน 2 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม และแขนเครนทับรถตู้โดยสาร ที่กำลังเดินทางจากพัทยาเข้ากรุงเทพฯ ผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 5 รายนั้น

วันนี้ (8 ส.ค.) พ.ต.ท.พรชัย ปลั่งศิริธรรม สารวัตรเวรตำรวจทางหลวงเขาเขียว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ผู้ที่ขับรถเครนมาพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นไม่เป็นอะไรมาก หลังจากนี้จะเรียกสอบปากคำ ส่วนผู้บาดเจ็บที่เป็นชาวต่างประเทศ อาจจะเสียเวลาในการสอบปากคำ เนื่องจากต้องเดินทางกลับประเทศด่วน ซึ่งจะประสานกันอีกครั้ง

สำหรับรูปคดีคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะสามารถสรุปสำนวน ส่งฟ้องผู้ต้องหาตามกฎหมาย เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนถ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ด้าน นายคาร พรมสิทธิ์ พนักงานขับรถเครนของบริษัท แสงอรุณ จำกัด กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเวลา 04.30 น. ขณะทำการยกตะแกรงเหล็กเพื่อทำสะพานทางแยกต่างระดับหนองขาม-แหลมฉบัง โดยจังหวะที่ทำงานอยู่นั้นเกิดลมกระโชกมา ทำให้ตะแกรงเหล็กที่ยกไปข้างหน้าจนรถเครนเสียการทรงตัว และล้มลงจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

“ผมก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น และรู้สึกเสียใจ ขอโทษผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตด้วย ที่ผ่านมา ผมขับรถเครนมานานแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เลย ครั้งนี้เสียหายนับล้านบาท เพราะรถตู้ถูกทับเสียหาย 2 คัน และรถเครนด้วย และมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บอีกหลายราย”

นายคาร กล่าวว่า ขณะนี้ได้เดินทางมาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปร่วมพิธีศพผู้ที่เสียชีวิตด้วย