พระนครศรีอยุธยา - หนุ่มโรงงานวัย 30 ปี น้อยใจแฟนสาวรุ่นพี่ บอกเลิกพร้อมปิดการติดต่อ ตัดสินใจเขียนข้อความลาตายผ่านเฟซบุ๊ก ด้วยการผูกคอตายขึ้นอืดอยู่ในบ้านพัก
เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (7 ส.ค.) ร.ต.ท.เนติภูมิ โคตรศรี ร้อยเวร สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีกลิ่นเหม็นรุนแรงภายในบ้าน ของหมู่บ้านเจษฎา 6 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครพุทไธสวรรค์
จากการตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 51/532 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของเจ้าหน้าที่ พบศพชายอยู่ภายในห้องส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว สภาพผูกคอเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน โดยใช้เชือกผูกกับคานฝาเพดานภายในห้อง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายปณดพล อันดารา อายุ 30 ปี
สอบสวน น.ส.สายฝน ดุลย์ศร อายุ 33 ปี แฟนสาวของผู้ตายเปิดเผยว่า ตนกับผู้ตายทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยช่วงระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา ตนกับตายมักมีเรื่องระหองระแหงกันบ่อยจนถึงขั้นไม่พูดจากัน โดยพฤติกรรมของนายปณดพล ผู้ตายนั้นเป็นคนเงียบติดเล่นเฟซบุ๊ก
จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ตนไปทำงาน และโทร.มาหา นายปณดพล เพื่อขอแยกกันอยู่ และพยายามไม่ให้ นายปณดพล ติดต่อทางโทรศัพท์ จนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2557 นายปณดพล ส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กไปบอกเพื่อนๆ ของตนว่า “ช่วยให้ได้คุยกันอีกซักครั้ง” พร้อมกับส่งรูปภาพเชือกที่ผูกกับฝาเพดาน และบอกว่า “งั้นฝากบอกว่า ศพผม ให้ฝนโทร.หาพี่สาวให้เอากลับไปราชบุรี” ก่อนเงียบหายไป และวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 มีโทรศัพท์จากนายปณดพล โทร.มาหาเพื่อนๆ แต่ไม่มีใครรับ จากนั้นผู้ตายได้เงียบหายไป ไม่ไปทำงาน จนมาพบว่าผูกคอเสียชีวิตแล้ว ไม่คิดว่าจะน้อยใจ และผูกคอจริง ตนรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ตนเป็นสาเหตุทำให้ผู้ตายคิดสั้นแบบนี้
ทั้งนี้ จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ที่ตำรวจ เชื่อว่า ฝ่ายชายน้อยใจแฟนสาวที่บอกเลิกก่อนที่จะแชทผ่านเฟซบุ๊ก บอกเพื่อน และแฟนลาสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจผูกคอตาย
และจาการสอบสวน น.ส.สายฝน บอกว่า ผู้ตายเคยประชดรักโดยการผูกคอตายมาแล้วก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง แต่ก็กลับมาดีกัน แต่พอมาอีกครั้งไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาจริงๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะส่งศพผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต จ.ปทุมธานี ก่อนส่งให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป