เชียงราย - ไทยดึงพม่า-สปป.ลาว ร่วมรวมพลังต้านการค้ามนุษย์ ผู้ว่าฯ เชียงรายรับไทยยังมีปัญหา เป็นทั้งต้นทาง ทางผ่าน และปลายทางขบวนการนอกกฏหมาย
วันนี้ (1 ส.ค.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานในการเปิดกิจกรรม “ร่วมสร้างรวมพลังต่อต้านการค้ามนุษย์” ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. ที่ห้องประชุมดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท
วันแรกได้มีการประชุมร่วมไตรภาคีระดับเมือง เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า, แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว และทีมสหวิชาชีพ จ.เชียงราย และเชียงใหม่
ส่วนวันนี้ (1 ส.ค.) เป็นการจัดเดินรณรงค์จากหน้ามูลนิธิกวงเม้ง อ.แม่สาย-ศูนย์ฝึกยุววรรณ สภ.แม่สาย โดยมี พ.ต.ท.วิน ทูน ผกก.เมืองท่าขี้เหล็ก จ.ท่าขี้เหล็ก และท่านแพง สีสะเกด ว่าการหัวหน้าห้องตำรวจ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าร่วมด้วย
นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า จากข่าวสารการดำเนินคดีการค้ามนุษย์ที่ปรากฏ เป็นสิ่งยืนยันชัดเจนว่าไทยยังมีปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์อยู่ โดยเป็นต้นทางคือ คนภายใน ถูกนำไปค้ามนุษย์ในต่างประเทศ, กลางทาง คือ มีการขนส่งชาวต่างด้าวผ่านพื้นที่เพื่อไปค้ายังประเทศอื่น และปลายทาง คือ คนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเด็ก ผู้หญิง และแรงงาน ถูกนำมาหาผลประโยชน์ภายในประเทศไทย
ที่ผ่านมามีการลงนามความร่วมมือ หรือเอ็มโอยู แบบทวิภาคี และพหุภาคีหลายครั้งแต่ปัญหาก็ยังคงมีอยู่
ด้าน พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ได้บรรยายนโยบายและมาตรการของประเทศไทยต่อกรณีการค้ามนุษย์ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีประกาศที่เกี่ยวข้องกับแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์หลายฉบับ เช่น ฉบับที่ 70 ฉบับที่ 72 ฉบับที่ 74
พล.ต.พัฒนาย้ำว่า คสช.มีมาตรการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ทั้งตั้งศูนย์นำร่องในหลายจังหวัด ก่อนจะมีการตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการในส่วนกลาง และต่างจังหวัด และให้แรงงานพม่า ลาว และกัมพูชา ขึ้นทะเบียนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ให้มีการพบปะระหว่างนายจ้าง-ลูกจ้างโดยตรง เพื่อตัดอิทธิพลของกลุ่มมาเฟีย-กลุ่มอิทธิพลรีดผลประโยชน์ต่างๆ ล่าสุดกำลังเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ-ขออนุญาตทำงาน
“จากนี้ไปคณะกรรมการฯ จะเร่งจัดตั้งศูนย์วันสตอปเซอร์วิสให้ครบ 77 จังหวัดให้เร็วที่สุดต่อไป”
