กาฬสินธุ์ - เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เร่งฉีดพ่นยาฆ่ายุงลายป้องกันโรคไข้เลือดออกในช่วงหน้าฝน หลังพบผู้ป่วยพุ่งสูงถึง 157 ราย ขณะที่ สสจ.กำชับ อสม.ประจำหมู่บ้านรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนร่วมกันป้องกันและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไข้เลือดออก
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ปัญหาโรคระบาดที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่มักเกิดขึ้นกับหน้าฝน โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก และไข้หวัด โดยปัจจุบันพบว่ายังคงมีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกและมีผู้ป่วยในหลายพื้นที่ทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์
เนื่องจากอยู่ในช่วงหน้าฝน มีน้ำขังทำให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเป็นอย่างดี ประกอบกับยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ไม่ยอมป้องกันตนเอง ปล่อยให้สภาพแวดล้อมสกปรก และขาดการตระหนักถึงอันตรายของโรค
ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สรุปยอดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 157 ราย และไข้หวัด 102 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
ขณะที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกเดินฉีดพ่นยาตามชุมชนและแหล่งเพาะพันธุ์ที่เสี่ยงตามจุดต่างๆ ภายในเขตเทศบาลฯ เพื่อกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย สกัดการแพร่เชื้อไข้เลือดออกเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นพ.พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำอำเภอ และ อสม.ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่สุขศาลาทุกหมู่บ้านกว่า 60,000 คน เร่งทำการรณรงค์ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมกันป้องกันและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคไข้เลือดออก
โดยเน้นแนวทางรณรงค์ 5 ป 1 ข คือ ปิดภาชนะ เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน ปล่อยปลากินลูกน้ำ ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้ถูกสุขาภิบาล ปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และขัดไข่ยุงลาย จึงขอเตือนให้ช่วยกันทำความสะอาดบ้านที่พักอาศัยและควรกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเป็นประจำ เนื่องจากโรคไข้เลือดออกจะมีอาการคล้ายไข้หวัด
แต่หากรักษาไม่ทันก็อาจจะเสียชีวิตลงได้ ซึ่งหากประชาชนคนใดป่วยมีอาการไข้สูง ตัวร้อน ปวดหัว อาเจียน หนาวสั่น มีผื่นแดงให้รีบไปพบแพทย์ทันที
