ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักท่องเที่ยวจีนโวยผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีพัทยา เรียกเก็บค่าเสียหายเกินจริง หลังขับเรือเจ็ตสกีเฉี่ยวชนโขดหิน เดือดร้อนตำรวจพัทยาต้องนำตัวทั้ง 2 ฝ่ายมาช่วยกันไกล่เกลี่ย จนยินยอม สุดท้ายเอาค่าเสียหายแค่ 2 พันบาท
วันนี้ (31 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเมืองพัทยาว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้เข้ามาร้องเรียนว่าได้ขับเรือเจ็ตสกีเฉี่ยวชนโขดหิน ทำให้เรือมีร่องรอยเพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกเรียกร้องค่าเสียหายสูงเกินความเป็นจริง
ในที่เกิดเหตุพบ นายสุรเดช มาตรง เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเมืองพัทยาให้การว่า มีนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนชายหญิง 2 คน ได้เข้ามาร้องทุกข์ว่าได้ไปเช่าเรือเจ็ตสกีชื่อเปี๊ยก 2 ซึ่งเป็นของนายณรงค์เดช สุขกูล อายุ 21 ปี มาจากที่บริเวณทางลากเรือขึ้น ย่านแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ไปขับขี่ในที่ห้ามประกอบกิจการใดๆ เกี่ยวกับทางเรือ จนเรือไปเฉี่ยวชนกับโขดหิน และมีร่องรอยถลอกบริเวณหัวด้านล่างเพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกนายนรงค์เดช เรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 15,000 บาท ซึ่งสูงเกินความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า เหตุดังกล่าวเรือเจ็ตสกีมีร่องรอยเพียงเล็กเท่านั้นจึงได้ไกล่เกลี่ยทั้งผู้ร้อง และผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีให้ไปพูดคุยหาทางออกที่เป็นธรรม ซึ่งจากการไกล่เกลี่ยทางเจ้าหน้าที่ประเมินว่า ค่าเสียหายที่นายณรงค์เดช เจ้าของเรือเรียกเก็บสูงความเป็นจริง และเสนอให้เรียกค่าเสียหายเพียง 2,000 บาท ซึ่งนายณรงค์เดช จึงยินยอม จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเมืองพัทยา ได้นำตัวนายณรงค์เดช ไปสอบสวนในส่วนของใบอนุญาต พบว่า ใบประกอบการหมดอายุ และยังนำเรือไปปล่อยในพื้นที่ห้ามประกอบกิจการใดๆ เกี่ยวกับทางเรื่อง ก่อนดำเนินการตามขั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ปัญหาเจ็ตสกีเรียกเก็บค่าเสียหายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน ทั้งที่หลายฝ่ายพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ มักจะมีการเรียกเก็บค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกินความเป็นจริงอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถจัดระเบียบได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาด้วย
ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักท่องเที่ยวจีนโวยผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีพัทยา เรียกเก็บค่าเสียหายเกินจริง หลังขับเรือเจ็ตสกีเฉี่ยวชนโขดหิน เดือดร้อนตำรวจพัทยาต้องนำตัวทั้ง 2 ฝ่ายมาช่วยกันไกล่เกลี่ย จนยินยอม สุดท้ายเอาค่าเสียหายแค่ 2 พันบาท
วันนี้ (31 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบที่บริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเมืองพัทยาว่า มีนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้เข้ามาร้องเรียนว่าได้ขับเรือเจ็ตสกีเฉี่ยวชนโขดหิน ทำให้เรือมีร่องรอยเพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกเรียกร้องค่าเสียหายสูงเกินความเป็นจริง
ในที่เกิดเหตุพบ นายสุรเดช มาตรง เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเมืองพัทยาให้การว่า มีนักท่องเที่ยวสัญชาติจีนชายหญิง 2 คน ได้เข้ามาร้องทุกข์ว่าได้ไปเช่าเรือเจ็ตสกีชื่อเปี๊ยก 2 ซึ่งเป็นของนายณรงค์เดช สุขกูล อายุ 21 ปี มาจากที่บริเวณทางลากเรือขึ้น ย่านแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ ไปขับขี่ในที่ห้ามประกอบกิจการใดๆ เกี่ยวกับทางเรือ จนเรือไปเฉี่ยวชนกับโขดหิน และมีร่องรอยถลอกบริเวณหัวด้านล่างเพียงเล็กน้อย แต่กลับถูกนายนรงค์เดช เรียกร้องค่าเสียหายสูงถึง 15,000 บาท ซึ่งสูงเกินความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า เหตุดังกล่าวเรือเจ็ตสกีมีร่องรอยเพียงเล็กเท่านั้นจึงได้ไกล่เกลี่ยทั้งผู้ร้อง และผู้ประกอบการเรือเจ็ตสกีให้ไปพูดคุยหาทางออกที่เป็นธรรม ซึ่งจากการไกล่เกลี่ยทางเจ้าหน้าที่ประเมินว่า ค่าเสียหายที่นายณรงค์เดช เจ้าของเรือเรียกเก็บสูงความเป็นจริง และเสนอให้เรียกค่าเสียหายเพียง 2,000 บาท ซึ่งนายณรงค์เดช จึงยินยอม จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าเมืองพัทยา ได้นำตัวนายณรงค์เดช ไปสอบสวนในส่วนของใบอนุญาต พบว่า ใบประกอบการหมดอายุ และยังนำเรือไปปล่อยในพื้นที่ห้ามประกอบกิจการใดๆ เกี่ยวกับทางเรื่อง ก่อนดำเนินการตามขั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ปัญหาเจ็ตสกีเรียกเก็บค่าเสียหายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน ทั้งที่หลายฝ่ายพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังพบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ มักจะมีการเรียกเก็บค่าเสียหายจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกินความเป็นจริงอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถจัดระเบียบได้อย่างเป็นรูปธรรมได้ จึงอยากฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาจัดการแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไป เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาด้วย