อุตรดิตถ์ - พบพ่อเฒ่าชาวอุตรดิตถ์ต้องทนทุกข์อยู่กับแขนซ้ายที่หักจนห้อยร่องแร่งมานานถึง 13 ปี หลังเจออุบัติเหตุแขนหักตอนอายุ 50 ปี เข้า รพ.รอผ่าตัด ได้แต่ยาแก้ปวดหลายวันไม่ไหว หนีกลับบ้านรักษาหมอน้ำมัน ทำกระดูกไม่ต่อกันจนถึงทุกวันนี้ บอกอยากมีแขนเหมือนคนอื่น
วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า ที่บ้านชำหนึ่ง หมู่ 5 ต.ท่าสัก อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ มีพ่อเฒ่าวัย 63 ปี ต้องทนทุกข์ทรมานมานานถึง 13 ปี หลังได้รับอุบัติเหตุกระดูกแขนหักตอนอายุ 50 ปี ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ แต่พยาบาลให้กินแต่ยาแก้ปวดรอการผ่าตัดหลายวัน จึงหนีกลับบ้านไปรักษาหมอน้ำมัน แต่กระดูดแขนกลับไม่ต่อกัน ต้องใช้ชีวิตอยู่กับแขนที่ห้อยร่องแร่งข้างหนึ่งมาจนถึงทุกวันนี้
จากการตรวจสอบพบว่าพ่อเฒ่ารายนี้คือนายเบิ้ม ซื่อตรง อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 บ้านชำหนึ่ง หมู่ 5 ต.ท่าสัก อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ แขนซ้ายท่อนบนพิการ กระดูกหัก-หลุดออกจากกัน แขนท่อนล่างห้อยโตงเตง มีเพียงผิวหนัง และเส้นเอนยึดแขนไว้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม พ่อเฒ่าเบิ้มยังสามารถถือ และจับสิ่งของที่มีน้ำหนักไม่มากนักได้ แต่ทุกครั้งที่หยิบจับสิ่งของก็จะรู้สึกเจ็บ ถ้าเป็นของที่มีน้ำหนักมากไม่ต้องพูดถึงเพราะจะไม่สามารถหยิบจับหรือถือได้เลย
นายเบิ้มกล่าวว่า ตอนอายุ 50 ปีได้รับอุบัติเหตุจากการขี่รถจักรยานยนต์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ แพทย์บอกว่าแขนซ้ายหัก พยาบาลให้กินแต่ยาแก้ปวดเพื่อรอการผ่าตัด แต่ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่ดำเนินการ ตนจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาล เพื่อมารักษาในหมู่บ้านคือ หมอน้ำมัน โดยรักษาอยู่ประมาณ 1 เดือนก็ไม่ดีขึ้น ที่สำคัญกระดูกแขนที่หักก็ไม่ต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
นายเบิ้มบอกว่า แขนซ้ายที่ห้อยร่องแร่งมา 13 ปีนี้ทำให้การใช้ชีวิตลำบากมาก แต่ก็ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่หากเป็นไปได้ก็อยากจะมีแขนที่กระดูกเชื่อมต่อกันอีกครั้งเหมือนกับคนอื่นๆ