ศรีสะเกษ- ตำรวจศรีสะเกษจับแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่เครือข่ายเรือนจำ ได้ของกลาง 66,000 เม็ด มูลค่ากว่า 19 ล้าน พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย รับสารภาพได้ค่าจ้างขนยาบ้าครั้งละ 1 แสนบาท
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ ( 29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบประจำพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมยาบ้า จำนวน 66,000 เม็ด
พร้อมด้วยผู้ต้องหา 2 คน คือ นายนิกร หรือเต้ พลเดช อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.14 บ้านหนองบุนมาก ต.หนองบุนมาก อ.หนองบุนมาก จ.นครราชสีมา และนายชวดล หรือเป้า กุลไธสง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.7 ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดถูกจับกุมได้ที่ถนนระหว่าง อ.ยางชุมน้อย-อ.เมืองศรีสะเกษ บริเวณสะพานบ้านผักขะ ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ
พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ จาก นช.จินดา หรือฐา โทตระกูล ที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ จ.ศรีสะเกษ และทราบว่า นช.จินดาจะใช้โทรศัพท์โทร.ออกจากเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ ติดต่อไปยังผู้ค้ายาบ้า จ.อุบลราชธานี เพื่อให้นำเอายาบ้ามาส่งให้ผู้ค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ โดยมีลูกน้องของ นช.จินดาไปรับยาบ้านำเอามาส่งให้ลูกค้ายาบ้าของ นช.จินดา จากนั้นจะโอนเงินค่ายาบ้าเข้าบัญชีธนาคารเป็นการชำระค่ายาบ้า
ดังนั้นจึงได้ให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจากเครือข่ายของ นช.จินดา และได้ตกลงนัดหมายรับยาบ้ากันที่บริเวณที่เกิดเหตุ
เมื่อลูกน้องของ นช.จินดานำเอายาบ้ามาส่งให้สายที่ล่อซื้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 34 มัด มียาบ้าจำนวนทั้งสิ้น66,000 เม็ด ราคาเม็ดละ 300 บาท มีมูลค่าประมาณ 19,800,000 บาท โดยถือว่าเป็นการจับกุมยาบ้ารายใหญ่ที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ นับตั้งแต่มีการจับกุมคดียาบ้าเป็นต้นมา
นายนิกร หรือเต้ พลเดช อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพเก็บเงินกู้ดอกเบี้ยรายวันและได้เป็นคนส่งยาบ้าให้ลูกค้าของ นช.จินดา หรือฐา ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ จ.ศรีสะเกษ โทรศัพท์สั่งให้ตนไปรับยาบ้ามาส่งให้ลูกค้า โดยตนไปรับยาบ้ามาจากแก๊งยาบ้าที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งรับยาบ้ามาจาก สปป.ลาว จากนั้นนำเอายาบ้ามาส่งในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ทำมาแล้ว 1 ครั้ง ได้เงิน 100,000 บาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเมื่อส่งยาบ้าเสร็จแล้วประมาณ 1 สัปดาห์จะได้รับเงินค่าจ้าง 100,000 บาท เงินค่าจ้างที่ได้นำเอาไปเที่ยวเตร่ แต่ในครั้งนี้มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คนว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.ยางชุมน้อย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
