ประจวบคีรีขันธ์ - ที่ผ่านมา “ผู้จัดการออนไลน์” ได้นำเสนอโครงการ “ครึ่งไร่คลายจน” ของนายอำเภอบางสะพานน้อย ซึ่งนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาทำการเกษตรผสมผสาน เป็นครัวเรือนต้นแบบให้แก่ชุมชนในพื้นที่ไปแล้ว ซึ่งวันนี้ได้มีการต่อยอดด้วยการเปิด “ตลาดนัดครึ่งไร่คลายจน” ให้แก่ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้นำผลผลิตของตนเองไปจำหน่าย สร้างรายได้ให้แก่ตนเอง สิ่งสำคัญยังเป็นการสร้างความรักความสามัคคี ความปรองดองความสมานฉันท์ให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย วันเดียวเงินหมุนเวียนเกือบ 4 แสนบาทในตลาดนัด
ป้ายด้านบนจะมีคำว่า “เงินทองของมายา ข้าวปลาซิของจริง” นับเป็นประโยควรรคทองของหม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ผู้บุกเบิกตำนาน แตงโมบางเบิดบางสะพานน้อย ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดแห่งการเกษตรแผนใหม่ เมื่อในอดีตที่ผ่านมา
บรรยากาศของตลาดนัดครึ่งไร่คลายจน ที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ว่างเปล่าข้างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีผู้อนุญาตให้นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร อำเภอบางสะพานน้อย ได้ใช้สถานที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ มาจัดเป็นตลาดนัดเพื่อเปิดโอกาสให้แก่ชาวบ้านในอำเภอบางสะพานน้อย จากหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ จำนวน 59 ครัวเรือน ได้นำผลผลิตที่ชาวบ้านปลูกไว้ในพื้นที่รอบๆ บ้าน ตามโครงการครึ่งไร่คลายจน เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ที่เหลือจากการบริโภค นำมาจำหน่าย และแลกเปลี่ยนภายในตลาดแห่งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ และเป็นการเปิดช่องทางการตลาดรองรับผลผลิตของชาวบ้านในโครงการครึ่งไร่คลายจน ไม่เพียงเท่านั้น ยังเป็นการเปิดประสบการณ์จากชาวบ้านที่เป็นผู้ปลูก ผู้กิน มาเป็นผู้ขายอีกด้วย
ประเดิมเป็นวันแรกวันนี้ (26 ก.ค.) ก็เป็นไปด้วยความคึกคัก ซึ่งก็มีทั้งพืชผักสวนครัวชนิดต่างๆ ตั้งแต่ข้าวสาร พริก กะเพรา โหระพา บวบ มะเขือ และอื่นๆ อีกหลายชนิดด้วยกัน และยังมีผลไม้ ทั้งกล้วย มะละกอ แตงโม ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงสัตว์เลี้ยง ทั้งไก่ (ก็มีเสียงร้อง) เป็ด หมูหลุม (ส่งเสียงร้อง) ปลาดุก ตลอดจนไข่ไก่ นำมาจำหน่ายภายในตลาดแห่งนี้ ด้วยราคาที่ถูกตั้งแต่ราคา 5 บาท ไปจนถึงหลัก 100 บาท สิ่งสำคัญพืชผลทางการเกษตรทั้งหมดของชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการฯ ยังต้องบอกว่า ปลอดจากสารเคมีจริงๆ
นางสำเนียง รุ่งเรือง ชาวบ้านอำเภอบางสะพานน้อย และชาวบ้านคนอื่นๆ อีกหลายรายที่นำนำผลผลิตที่ตัวเองปลูก และดูแลมานานกว่า 6 เดือน กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ส่วนหนึ่งได้บริโภคไปแล้ว และส่วนที่เหลืออยู่ได้นำมาจำหน่ายนั้นต่างยอมรับว่า โครงการที่เกิดขึ้นสร้างให้ชุมชนได้เข้มแข็ง และรู้จักทำมาหากิน สิ่งสำคัญเป็นหนทางเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว ที่ผ่านมาเราก็แค่ปลูกไว้กิน วันนี้ได้เป็นแม่ค้าขายก็รู้สึกดีใจที่มีอาชีพใหม่เพิ่มขึ้นแก่ครอบครัว ถึงรายได้จะไม่มากก็ภูมิใจที่เกิดจากความขยันหมั่นเพียรของครอบครัว
ในขณะที่พี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อผลผลิตทางการเกษตร ต่างก็ขานรับกับตลาดนัดครี่งไร่คลายจน เพราะพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านก็ราคาไม่แพง สิ่งสำคัญต้องอุดหนุนพืชผักของชาวบ้านในพื้นที่ด้วยกัน
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งให้เกียรติมาเปิดตลาดนัดครึ่งไร่คลายจน ในครั้งนี้ ก็ได้เดินชม และเยี่ยมชมชาวบ้านที่นำผลิตผลทางการเกษตรมาจำหน่าย ซึ่งเห็นว่าโครงการนี้นับเป็นรูปธรรมที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้สร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ในอนาคตก็จะนำตัวอย่างของอำเภอบางสะพานน้อย ซึ่งกลายเป็นอำเภอต้นแบบของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ไปต่อยอดให้แก่อำเภอต่างๆ ได้นำแนวคิดที่นี่ไปปรับใช้ให้แก่ชุมชนของตัวเอง
วันนี้โครงการ “ครึ่งไร่คลายจน” ภายใต้แนวคิด ปลูก เลี้ยง ทุกอย่างที่กิน และกินทุกอย่างที่ปลูกที่เลี้ยง และนำมาสู่ตลาดนัดครี่งไร่คลายจน ครั้งแรกของ นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ที่เกิดขึ้นยังได้ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนได้อีกช่องทางหนึ่ง มีเงินจากการใช้จ่ายของชาวบ้านที่มาซื้อผลผลิตทางการเกษตร และข้าวของต่างๆ ในวันนี้ไปแล้วเกือบ 4 แสนบาท
ซึ่งในอนาคตได้เตรียมที่จะนำพาให้ชาวบ้านที่อยู่ในโครงการครึ่งไร่คลายจน ได้จัดตั้งกลุ่มกันเองเพื่อบริการจัดการตลาดของพวกเขาต่อไป สิ่งสำคัญพืชผัก และผลผลิตจะต้องปลูกในพื้นที่และไม่ใช้สารเคมี สำหรับตลาดนัดครี่งไร่คลายจน ในเดือนสิงหา-กันยายน ก็จะมีขึ้นทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์เว้นสัปดาห์ แต่ในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ก็จะมีขึ้นทุกวันพฤหัสบดี
นอกจากการจัดตลาดนัดครึ่งไร่คลายจนแล้ว ทางอำเภอบางสะพานน้อย ยังได้บริการประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อข้าวของภายในตลาดนัดแห่งนี้ ด้วยการออกหน่วยบริการ อำเภอยิ้ม ใสสะอาด ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ มาบริการชาวบ้าน ทั้งการให้บริการรับฝากเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาอำเภอบางสะพานน้อย ตลอดจนการให้บริการด้านสาธารณสุขจากโรงพยาบาลบางสะพานน้อย
รวมไปถึงทหารจากกองพันทหารทราบที่ 1 ศูนย์การทหารราบ และตำรวจตระเวนชายแดน ก็ยังได้มาร่วมกิจกรรม และเปิดศูนย์เรื่องราวเพื่อรับร้องทุกข์จากชาวบ้านที่เดือดร้อน มาให้บริการกันภายในตลาดแห่งนี้ ทั้งหมดนี้ยังเป็นการสร้างความรักความสามัคคี และความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นเพื่อความสุขของพี่น้องประชาชนในชุมชนอำเภอบางสะพานน้อย ให้เป็นไปตามโรดแมปของ คสช.ที่ได้วางไว้
