พิจิตร - ฝ่ายปกครองบางมูลนากนำตำรวจ ทหารตามหาเครื่องสูบน้ำ-รถไถเดินตามให้ชาวบ้าน หลังหัวขโมยอาละวาด ลักจากท้องนา-ใต้ถุนบ้านนับ 10 เครื่องในรอบเดือน ล่าสุดเจอเต็มอู่ต้องสงสัยที่ อ.โพธิ์ประทับช้าง ขณะช่างซ่อมยันมีเจ้าของทุกเครื่อง
นายคณนาถ คะชะนา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร เปิดเผยว่า รอบ 1 เดือนที่ผ่านมามีเครื่องสูบน้ำของชาวนาในเขต อ.บางมูลนาก ที่ตั้งสูบน้ำอยู่ตามท้องไร่ท้องนา ตลอดจนรถไถเดินตามที่จอดเอาไว้ใต้ถุนบ้าน หรือตามห้างนา ถูกคนร้ายโจรกรรมสูญหายไปมากกว่า 10 เครื่อง เฉลี่ย 3 วัน หาย 1 เครื่อง
ซึ่งกำนันและผู้ใหญ่บ้านได้ไปตระเวนดูกล้องวงจรปิดจากบ้านเรือนร้านค้าที่อยู่ตามสี่แยกต่างๆ ก็เปรากฏว่ามีรถกระบะมิตซูบิชิ สีขาว บรรทุกเครื่องสูบน้ำที่สงสัยว่าจะเป็นของชาวนาบางมูลนาก มุ่งหน้าเข้าไปเขต อ.โพธิ์ประทับช้าง
อำเภอจึงร่วมกับ ร.ต.ประกาศิต พิมมาลัย และทหาร กกล.รส.จทบ.เพชรบูรณ์ ประจำพื้นที่จังหวัดพิจิตร พ.ต.ท.กิตติกรณ์ ปานผล ผู้ประสานงานฝ่ายตำรวจ กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร นำกำลังแกะรอยเพื่อตามหา ประกอบกับมีเบาะแสว่าแถบนี้มีอู่เป็นที่พักสินค้าและแยกชิ้นส่วนขาย
จึงได้เข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถไถนาของนายสมควร วงษ์รักษ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212/1 หมู่ 10 ต.ดงเสือเหลือง อ.โพธิ์ประทับช้าง พบรถจักรยานยนต์เก่า 7 คัน รถไถนาเดินตามและเครื่องสูบน้ำเพื่อการเกษตรรวม 10 รายการ ซึ่งไม่มีหลักฐานแสดงว่าเป็นของใคร จึงได้ทำการยึดและอายัดเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายสมควรยืนยันว่าเครื่องสูบน้ำและรถไถนาทั้งหมดเป็นของลูกค้าที่เอามาซ่อม มีตัวตนว่าเป็นของใครบ้าง โดยจะขอเวลา 2-3 วันไปตามตัวให้เอาหลักฐานมาแสดงต่อทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ และปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้รับซื้อของโจร หรือไม่ได้เป็นโจรแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่าเปิดอู่ซ่อม และทำโรงกลึงโดยไม่ได้ขออนุญาตกับทางราชการเท่านั้น เนื่องจากเห็นว่าเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ลูกค้าส่วนใหญ่ตนก็จะรู้จักแทบทั้งสิ้น
เบื้องต้นทางตำรวจและทหารยังไม่ได้แจ้งข้อหาหรือควบคุมตัวนายสมควร เพียงแต่ได้ตรวจยึดอายัดรถไถนาเดินตามและเครื่องสูบน้ำเพื่อตามหาเจ้าของ แต่ถ้าไม่มีหลักฐานก็จะให้เจ้าทุกข์ในเขต อ.บางมูลนาก มาดูของกลาง ซึ่งถ้าเป็นของที่ถูกขโมยมาก็ต้องดำเนินคดีต่อไป