บุรีรัมย์ - หอยเชอรี่ระบาดหนัก กัดกินต้นข้าว ต.ท่าม่วง อ.สตึก กว่าพันไร่แล้ว สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาต้องซื้อยากำจัด และพันธุ์ข้าวมาปลูกใหม่ แบกภาระต้นทุนอีกเท่าตัว แต่ไม่สามารถยับยั้งได้ บางรายต้องเดินเก็บทั้งวันทั้งคืน วอนภาครัฐช่วยเหลือด่วน ก่อนเสียหายเป็นวงกว้าง
วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนา 11 หมู่บ้านใน ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังหอยเชอรี่ระบาดกัดกินต้นข้าวกว่า 1,000 ไร่ โดยเฉพาะต้นอ่อนที่เพิ่งปักดำ หรืองอกใหม่หลังหว่านเสร็จ เสียหายไปแล้วหลายสิบไร่ ชาวนาบางรายจะลงทุนซื้อกากชาหรือสารเคมีมากำจัดแต่ไม่สามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ และยังต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มอีกเท่าตัวเฉลี่ยไร่ละ 4,000-5,000 บาท จากการซื้อยามากำจัด และซื้อพันธุ์ข้าวมาปลูกทดแทน
ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล จึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันเอง โดยการเดินเก็บหอยเชอรี่ในนาข้าวทั้งกลางวันกลางคืนนำไปทิ้งกลางถนนให้รถที่ขับผ่านเหยียบทำลาย ซึ่งแม้จะไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้แต่ก็เป็นวิธีที่พอจะทำได้ในขณะนี้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางกำจัดหอยเชอรี่ก่อนที่จะกัดกินต้นข้าวเสียหายเป็นวงกว้างมากกว่านี้
นางทองศรี ศาลางาม อายุ 40 ปี ชาวนาบ้านโพนเงิน ต.ท่าม่วง อ.สตึก กล่าวว่า ประสบปัญหาหอยเชอรี่ทุกปี แต่ปีนี้หนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา แม้จะซื้อกากชาหรือสารเคมีที่มีผู้แนะนำมากำจัดก็ไม่สามารถยับยั้งการระบาดได้ ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยสูบน้ำออกจากนา และเก็บหอยเชอรี่ไปทำลายเท่านั้น อยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางกำจัดหอยเชอรี่ ก่อนที่จะสร้างความเสียหายแก่ชาวนามากกว่านี้ด้วย
