ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศพายุ “รามสูร” อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน คาดเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ เตือน 20-26 ก.ค. ยังมีฝนตกหนัก-ลมแรง พื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพายุ “รามสูร” ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2557 เมื่อเวลา 04.00 น. พายุโซนร้อนรามสูร บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนโดยทั่วไป กับมีฝนตกหนัก และลมแรงบางพื้นที่ บริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา
ขอให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในจังหวัดดังกล่าว เตรียมการป้องกันระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนตกสะสมต่อเนื่อง อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 20-26 กรกฎาคม คาดหมายลักษณะอากาศช่วงวันที่ 21-23 กรกฎาคม ลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตก และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนเพิ่มขึ้น แต่บริเวณภาคเหนือ และด้านตะวันตกของประเทศ จะยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมในทะเลอันดามันสูงประมาณ 2-3 เมตร
ข้อควรระวัง วันที่ 20 กรกฎาคม ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณตอนบน และด้านตะวันตกของภาค ในช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณตอนบน และด้านตะวันออกของภาค ช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง ช่วงวันที่ 20-21 กรกฎาคม มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ ส่วนช่วงวันที่ 22-26 กรกฎาคม มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส สูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งช่วงวันที่ 20-23 กรกฎาคม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนทางตอนบนของภาค ช่วงวันที่ 20-23 กรกฎาคม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ตลอดช่วง และมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนบนของภาค ช่วงวันที่ 21-22 กรกฎาคม ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนช่วงวันที่ 23-26 กรกฎาคม ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ตั้งแต่ จ.กระบี่ ลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส สูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ช่วงวันที่ 21-23 กรกฎาคม โอกาสมีฝนร้อยละ 40-60 ส่วนช่วงวันที่ 24-26 กรกฎาคม โอกาสมีร้อยละ 60-70 อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส สูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
