อธิบดีป่าไม้ตรวจพื้นที่ถูกบุกรุก ทำคันกั้นน้ำสกัดลงอ่างสำนักห้วยไม้เต็ง

ราชบุรี - อธิบดีกรมป่าไม้ บุกตรวจที่ดินราชบุรี หลังชาวบ้านร้องทำคันกั้นน้ำลงอ่างสำนักห้วยไม้เต็ง พบเป็นที่กรมชลประทาน บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวน เจ้าของหอบเอกสารแจง จี้ตรวจสอบทุกแปลง เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน

วันนี้ (19 ก.ค.) นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ พล.ต.ชาติชาย ขันสุวรรณ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกราชบุรี นายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เข้าตรวจสอบที่ดินของ นายสิทธิเดช ศิริจินดาพันธ์ หมู่ 6 บ้านหนองปากโลง ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ และหมู่ 8 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี รวม 3,700 ไร่ ติดกับอ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็ง

หลังได้รับการร้องเรียนว่า นายสิทธิเดช ทำคันกั้นน้ำทำให้น้ำไม่ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนคันกั้นน้ำรุกล้ำพื้นที่ของกรมป่าไม้ ที่กรมชลประทาน ขอใช้ทำเป็นอ่างเก็บน้ำ 318 ไร่ จึงได้รแจ้งความดำเนินคดีต่อ นายสิทธิเดช ข้อหาบุกรุกและยึดครองที่ดินของรัฐ แต่พื้นที่ยู่อีกกว่า 3,000 ไร่ จะได้ตรวจสอบต่อไปว่าออกเอกสารสิทธิได้อย่างไร

ต่อมา นายสิทธิเดช นำเอกสารสิทธิซึ่งมีทั้งโฉนดที่ดินที่อ้างว่าซื้อจากธนาคารไทยพาณิชย์ 2,866 ไร่ และ น.ส.3 ที่ซื้อจากชาวบ้านอีกกว่า 600 ไร่ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และยินดีในตรวจสอบ แต่ที่ทำคันดินกั้นนั้นยอมรับว่าผิด แต่คิดว่ากเพื่อกั้นน้ำที่อาจมีสารปนเปื้อนจากการใช้สารเคมีในไร่มันสำปะหลัง และไร่ข้าวโพด จะไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำสำนักห้วยไม้เต็ง ซึ่งจะรื้อถอนออกไป และอยากให้ตรวจสอบที่ดินบริเวณนี้ทั้งหมด ไม่ใช่ตรวจสอบเฉพาะที่ดินของตนเท่านั้น เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน

ด้านนายธีรภัทร กล่าวว่า มีคำสั่งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ทุกหน่วยงานช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งในส่วนของ จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ตัวอย่าง กรณีนี้บุกรุกทำเป็นแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ชลประทาน ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และตรงไหนที่มีการบุกรุกจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดเช่นกัน