ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จากแนวนโยบายของสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่นจะย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ไปยังสถานีขนส่งแห่งที่ 3 ส่งผลกระทบต่อประชาชน วอนรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
เวลา 11.00 น. วันนี้ (17 ก.ค.) ที่ห้องประชุม 1 อาคาร 5 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กลุ่มรักพัฒนา บขส.ขอนแก่น กว่า 30 คนได้มีการจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการย้ายสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 1 ไปแห่งที่ 3 โดยมีนายฐัทภาศิณ์ อิ่มชาญกรฒ์ชัย เป็นตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน
จากกรณีจะมีการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (สีส้ม) ไปยังสถานีขนส่งแห่งที่ 3 จะส่งผลกระทบและความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้บริการ และผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เนื่องจากแนวนโยบายของสำนักงานขนส่งจังหวัดยังไม่ได้ศึกษาผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการและประกอบการ รวมทั้งการดำเนินการที่ผ่านมาไม่มีผู้มีส่วนได้เสียมีส่วนร่วมในกำหนดนโยบายดังกล่าว ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในวงกว้าง
กลุ่มรักพัฒนา บขส.ขอนแก่นได้ทำการสำรวจความคิดเห็น พบว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบจากหลายภาคส่วนต่อวิถีชีวิตที่เคยดำรงอยู่ปัจจุบัน จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการย้ายสถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 1 ไปแห่งที่ 3 และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนฝ่ายรัฐ ตัวแทนผู้ประกอบการ ตัวแทนผู้ใช้บริการ และนักวิชาการ เพื่อศึกษาให้เห็นผลกระทบและแนวทางแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นร่วมกัน
ดังนั้น ทางกลุ่มรักพัฒนา บขส.ขอนแก่นขอเรียกร้องให้ชะลอการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่นแห่งที่ 1 (บขส.1) ไปสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 3 ไว้ก่อน จนกว่าจะมีผลการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการศึกษาผลกระทบจากมีผู้มีส่วนได้เสียจากทุกภาคส่วน ภายใน 1 เดือน และดำเนินการศึกษาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 มีผู้ได้รับผลกระทบจากการย้ายสถานีดังกล่าว ยังไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาและเยียวยากับผู้เดือดร้อน จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน
นายสวาท อุปฮาต ตัวแทนผู้บริโภค กล่าวว่า ในฐานะที่ตัวเองเป็นประชาชนคนหนึ่งที่ต้องใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยครั้ง หากมีการย้าย บขส.แห่งที่ 1 ไปแห่งที่ 3 ตนเองได้รับผลกระทบแน่นอน ทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย เสียเวลาในการเดินทาง ไม่ได้รับความสะดวกจากการเดินทาง เนื่องจากระยะทางการเชื่อมต่อขนส่งมวลชนยังไม่เป็นระบบ และการจัดระบบการเดินรถของสถานีขนส่งแห่งที่ 3 ปัจจุบันนี้ยังไม่ครอบคลุมต่อความต้องการของผู้ใช้รถใช้โดยสาร
นายธนกิต แสงรุ้ง ตัวแทนนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การเดินทางจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นไปถึง บขส.3 มีค่าเดินทาง 150-250 บาท ซึ่งปกติจ่ายแค่ 10 บาท เนื่องจากระยะทางอยู่ห่างไกลกว่า 10 กิโลเมตร ทั้งเส้นทางเปลี่ยว การที่นักศึกษาหญิงจะเดินทางไปขึ้นรถ อาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นความกังวลที่ยังไม่ได้รับการชี้แจงหรือทำความเข้าใจจากผู้ที่เกี่ยวข้อง
ผศ.ดร.สถาพร เริงธรรม อาจารย์ประจำภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวว่า การย้ายสถานีขนส่งไม่มีความชัดเจนตั้งแต่ต้น มุ่งพัฒนาฝ่ายเดียว ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน จนเกิดความเดือดร้อนขึ้น จากปัญหาดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐควรเร่งตั้งคณะกรรมการรวมทุกฝ่าย โดยใช้ข้อมูลให้รอบด้าน ไม่อยากให้ดำเนินการอย่างเร่งรีบ เพื่อศึกษาผลกระทบ เศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจผู้ใช้บริการอย่างเป็นระบบ
ด้านตัวแทนแม่ค้ากล่าวว่า จากการย้ายสถานีขนส่งแห่งที่ 2 ไปแห่งที่ 3 ที่ผ่านมานั้น ผู้ประกอบการร้านค้าหลายร้านต้องปิดกิจการ เนื่องจากการแจ้งย้ายสถานีเร่งด่วนมาก ผู้ประกอบการไม่ได้เตรียมการรองรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ส่งผลต่อการทำมาหากินของประชาชนรอบสถานีขนส่ง ปัจจุบันก็ยังไม่มีหน่วยงานได้เข้ามาแก้ปัญหา ยังคงปล่อยเป็นความเดือดร้อนของประชาชน พ่อค้าแม่ค้าต่อไป
นายเชษฐ์ อุสนจีรัง ตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ กล่าวว่า ขณะนี้สถานีขนส่งแห่งที่ 3 ยังไม่พร้อมให้บริการ ทั้งในส่วนเส้นทางเข้า-ออก สถานี ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ระบบการให้บริการรถโดยสารที่จะย้ายจากสถานีขนส่งแห่งที่ 1 ไปสถานีแห่งที่ 3 นั้นผู้ประกอบการยังไม่ได้รับการชี้แจงอย่างชัดเจนและเป็นธรรม