xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เชียงใหม่รวบแก๊งอุ้มรีดเงิน 30 ล้าน อ้างทวงหนี้ยาเสพติด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่รวบ 4 ผู้ต้องหาอุ้มสองสามีภรรยาชาวสันทรายรีดเงิน 30 ล้านบาท อ้างเป็นการทวงหนี้จากการค้ายาเสพติดที่ผู้เสียหายติดค้างผู้ว่าจ้าง โดยจะได้รับเงินค่าจ้างครึ่งหนึ่งจากหนี้ทั้งหมด ระบุกล้าลงมือเพราะไม่คิดว่าผู้เสียหายจะกล้าแจ้งความ ด้าน จนท.เร่งติดตามขยายผล พร้อมล่าอีก 2 ผู้ต้องหาร่วมกระทำผิดที่ยังหลบหนีไปได้

วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบช.ภ.5 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภ.จว. ร่วมแถลงผลการจับกุมแก๊งรับจ้างทวงหนี้รายสำคัญ ที่อุ้มผู้เสียหายไปกักขังหน่วงเหนี่ยวบังคับเอาทรัพย์สิน

โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน ได้แก่ นายธีรนัย มหาพรหม ชาว จ.พังงา นายไทย กาวิละ ชาว จ.เชียงราย นายสมนึก บุญชูยิ่ง ชาว จ.เพชรบุรี และนายพงษ์พันธ์ แจ่มดอน ชาวกรุงเทพฯ พร้อมของกลางรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 2 กญ 4905 กรุงเทพมหานคร รถกระบะมิตตูบิชิ ไทรทัน ทะเบียน ขร 5602 เชียงใหม่ อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ซองบรรจุกระสุน 1 ซอง และลูกกระสุนปืน 9 มม. 12 นัด

ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกับพวกที่ยังหลบหนีไปได้อีก 2 คน ใช้รถยนต์ 3 คัน บังคับนายธนศิษฐ์ ตรีพลเศรษฐ์ อายุ 44 ปี ชาวอ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และน.ส.วรัญญา ราชานนท์ สองสามีภรรยาที่เป็นผู้เสียหาย ไปจากบริเวณลานจอดรถโรงพยาบาลดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ และไปกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ที่โรงแรมไอรักอินน์ อ.สันทราย บังคับเอาสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท และสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท จากนายธนศิษฐ์ และสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท ของน.ส.วธัญญา พร้อมโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง

นอกจากนี้ผู้ต้องหาได้ขู่บังคับให้นายธนศิษฐ์นำเงิน 5 ล้านบาท ที่เป็นหนี้กับผู้ว่าจ้างกลุ่มผู้ต้องหามาจ่ายให้ โดยปล่อยตัวไปแล้วให้โอนเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารของนายพงษ์พันธ์ ภายในช่วงบ่ายของวันที่ 15 กรกฎาคม แต่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และวางแผนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ โดยที่พวกที่ร่วมก่อนเหตุอีก 2 คน คือ นายบอย (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้รับงาน และนายเล็ก (ไม่ทราบนามสกุล)หลบหนีไปได้

พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้มาทวงหนี้จากผู้เสียหาย ที่เพิ่งพ้นโทษมาจากเรือนจำเมื่อไม่นานมานี้ จำนวนเงินประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดจากการค้ายาเสพติด โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินครึ่งหนึ่งของหนี้ จึงรวมตัวกันโดยการแนะนำของนายบอย แล้วร่วมกันวางแผนก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะคิดว่าผู้เสียหายไม่น่าจะกล้าแจ้งความ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมตัวดำเนินคดีได้ในที่สุด

สำหรับข้อกล่าวอ้างของผู้ต้องหาที่ระบุว่าหนี้สินดังกล่าวเกิดจากการค้ายาเสพติดนั้น จะมีการสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งจะเร่งติดตามจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีไปให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะนายบอยที่เป็นผู้รับงานนี้มา เพื่อที่จะได้ขยายผลการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น