บุรีรัมย์ - คณะทำงานตรวจสอบข้าวชุดที่ 41 ลงพื้นที่ตรวจโกดังกลางเก็บข้าวสารโครงการจำนำที่บุรีรัมย์แห่งแรก พบข้าวเหลืองจากการเก็บไว้นาน พร้อมสุ่มเก็บตัวอย่างข้าวส่งไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพอีกครั้ง ส่วนข้าวในคลัง อ.ประโคนชัยที่หายกว่า 100 ตัน จะตรวจสอบอย่างละเอียด หากหายจริงแจ้งความเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 10.00 น. (7 ก.ค.) นายพงษ์ชัย เกษมทวีศักดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 41 พร้อม พ.อ.จิรเดช เหมะลิน รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น รองประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว และนายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร การค้าภายในจังหวัด สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ในคลังพัฒนาพาณิชย์ (หลัง 1) ตั้งอยู่เลขที่ 167 ม.11 ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เป็นแห่งแรกในพื้นที่รับผิดชอบ 3 จังหวัด คือ จ.บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น รวม 31 โกดัง
จากการเข้าตรวจสอบโกดังแรกที่ อ.พุทไธสง ซึ่งมีข้าวสารจัดเก็บตามบัญชีอยู่ 2 กอง เป็นข้าวหอมมะลิ 100 % ชั้น 2 จำนวน 20,425 กระสอบ โดยกองที่ 1 เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีเจาะกองเพื่อพิสูจน์ว่าด้านในมีข้าวอยู่ครบตามจำนวนหรือไม่ ส่วนกองที่ 2 ต้องใช้เวลาตรวจนับหลายชั่วโมง เนื่องจากวางกองไม่เป็นระเบียบทำให้ยากต่อการตรวจนับ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจนับพบข้าวตรงตามบัญชี ส่วนคุณภาพมีข้าวเหลืองเล็กน้อย ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ อาจเนื่องจากเก็บไว้เป็นเวลานาน
ทั้งนี้คณะทำงานฯ ยังได้สุ่มเก็บตัวข้าวส่งไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพอีกครั้ง และหลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบจะได้รายงานไปยังกองทัพภาคที่ 2 และสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับทราบต่อไป
นายพงษ์ชัย เกษมทวีศักดิ์ ประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าว ชุดที่ 41 ระบุว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบโกดัง อ.พุทไสง จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด มีเพียงข้าวที่มีสภาพเหลืองเพียงเล็กน้อยประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ส่วนกรณีข้าวสารที่หายจาก “คลังสินค้าประทีปซีเมนต์บล็อก” ตั้งอยู่เลขที่ 133 ต.ปังกู อ.ประโคนชัย กว่า 100 ตัน หรือกว่า 1,400 กระสอบ ที่มีการร้องเรียนไปยังกองปราบก่อนหน้านี้นั้น เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีข้าวคงเหลือในสต๊อกตามบัญชี หรือขาดหายจริงหรือไม่อย่างไร หากพบหายจริงจะรายงานไปตามขั้นตอน และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการแจ้งความเอาผิดต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามกระบวนการต่อไป