กาฬสินธุ์ - ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่สังกัด อบจ.กาฬสินธุ์ 11 รายบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม เอาผิดทางวินัยกับสาวซี 7 เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป หลอกตุ๋นแชร์ลูกโซ่เงินกู้สูญ 4,750,000 บาท เชื่อทำเป็นขบวนการ
วันนี้ (3 ก.ค.) นายเชิดศักดิ์ ฆารสมภพ ผู้อำนวยการกองแผนและงบประมาณ อบจ.กาฬสินธุ์ นายบุญกว้าง เนตรเสนา หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยข้าราชการ พนักงาน สังกัด อบจ.กาฬสินธุ์ และชาวบ้านรวม 11 คน เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อนายศุภสิทธิ์ กอเจริญยศ หัวหน้ากลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ตรวจสอบและเอาผิดนางสาวขวัญรัตน์ ฉายผาด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.5 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 7 อบจ.กาฬสินธุ์ หรือซี 7 หลังกลุ่มผู้ร้องถูกฉ้อโกงเงิน โดยอ้างว่าเอาไปลงทุนปล่อยเงินกู้รวม 4,750,000 บาท
นายเชิดศักดิ์กล่าวว่า ตนรวมกับพวก 11 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และพนักงานใน อบจ. ถูกนางสาวขวัญรัตน์ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 7 ฉ้อโกงเงินไป 4,750,000 บาท โดยก่อนหน้านี้นางขวัญรัตน์พูดจาหว่านล้อมชักชวนให้ทุกคนนำเงินมาลงทุน ซึ่งจะให้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 4 บาท ถึงร้อยละ 7 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในสัญญาเงินกู้
โดยนางสาวขวัญรัตน์อ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนให้บุคคลอื่นกู้ยืมเพื่อใช้ในการศึกษาบุตร กลบหนี้เก่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และนำไปปล่อยกู้ให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งจะคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาทต่อเดือน จากนั้นจะนำดอกเบี้ยมาแบ่งกันและคืนเงินต้นให้จนครบ โดยนางสาวขวัญรัตน์ได้ส่วนต่างของดอกเบี้ย
นายเชิดศักดิ์กล่าวว่า ช่วงแรกๆ นางสาวขวัญรัตน์ทำตามที่พูดไว้ โดยนำเงินทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นส่งให้ทุกคน แต่ต่อมามีการจ่ายดอกเบี้ยล่าช้าไม่ตรงตามกำหนด และไม่ยอมจ่ายเงินต้นคืนนานหลายเดือน สอบถามไปหลายครั้งก็ไม่ยอมรับและถูกบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง
ดังนั้นทุกคนจึงรู้ตัวว่าถูกนางสาวขวัญรัตน์หลอกตุ๋นเงินแน่นอน จึงได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ และเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากทุกคนกำลังเดือดร้อน เพราะเงินที่นำมาให้นางสาวขวัญรัตน์ไปลงทุนนั้นได้มาจากการกู้ยืมสหกรณ์ ธนาคาร กองทุนเงินล้าน ญาติพี่น้อง และประชาชน ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ย และต้องนำเงินไปใช้คืนเช่นกัน
ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและเอาผิดนางสาวขวัญรัตน์ เพราะเชื่อว่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ และยังมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมาก
ด้านนายบุญกว้าง เนตรเสนา หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ อบจ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนถูกชักชวนโดยพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานาจนมั่นใจไปกู้ยืมเงินจากธนาคาร สหกรณ์ และญาติพี่น้องมาลงทุนกับนางสาวขวัญรัตน์ 2 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้ดอกเบี้ยและเงินต้นคืน จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว ซึ่งขณะนี้ครอบครัวกำลังเดือดร้อนเนื่องจากต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยให้ธนาคาร ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนและเพื่อนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่เกรงว่าเรื่องอาจจะล่าช้าจนนางสาวขวัญรัตน์รู้ตัวแล้ว และเท่าที่ทราบมีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้เครือญาติแล้ว จึงต้องเดินทางเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน
ขณะที่นายนายศุภสิทธิ์ กอเจริญยศ หัวหน้ากลุ่มงานข้อมูลสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเบื้องต้นมีผู้เสียหาย 11 รายที่เข้ามายื่นเรื่อง และมีเอกสารหลักฐานชัดเจน จนตำรวจรับเป็นคดี และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
โดยศูนย์ดำรงธรรมได้รับเรื่องแล้ว จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาและนายก อบจ.กาฬสินธุ์ เพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยความผิดดังกล่าวถือว่าร้ายแรงจนถึงขั้นให้ออกจากราชการได้
