ลำพูน - ตำรวจลำพูน ตั้งโต๊ะโชว์ผลงานจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ปล้นร้านสะดวกซื้อ ได้ผู้ต้องหา พร้อมของกลางหลายรายการ แถมสอบพบหลายคนมีประวัติต้องคดีอื่นติดตัวด้วย
บ่ายวันนี้ (2 ก.ค.) พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิตุชัย บุญมี ผกก.สภ.เมืองลำพูน ร่วมกันแถลงข่าวการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด และคดีปล้นร้านสะดวกซื้อตามหมายจับ
โดยชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาประกอบด้วย นายพิพัฒน์ ยาวิจิตร หรือโอม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ต.ประตูป่า อ.เมืองลำพูน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 1 เม็ด และอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม.1 กระบอก พร้อมลูกกระสุนปืน จำนวน 4 นัด
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายพิพัฒน์ เคยใช้อาวุธปืนยิง นายสุรพรพิงค์ หาญมงคล เนื่องจากไปทวงค่าจำหน่ายยาบ้าแล้วไม่ได้ นายชาตรี ต๊ะวรรณา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/4 หมู่ที่ 9 ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน 3.นายเรืองฤทธิ์ เตจ๊ะ หรือนาย อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/4 หมู่ 4 ต.ตะเคียนปม อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 3 เม็ด
เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวไปขยายผล สามารถจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการคือ นายเอกพล มหาธง หรือเอก อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ที่ 5 ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 50 เม็ด จากการตรวจสอบประวัติพบว่า มีหมายจับคดีวิ่งราวทรัพย์ร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนชื่อดังเมื่อปี 2554 และนายอุ่น ดัก หรือหนึ่ง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 349/326 หมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ที่ 4 ต.ป่าสัก อ.เมือง ลำพูน พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 610 เม็ด อาวุธปืน รีวอลเวอร์ ขนาด .22 พร้อมเครื่องกระสุนปืน 42 นัด
หลังจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นบ้านพบ นายพิทยา พรหมพีระ หรืออู๋ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/3 หมู่ที่ 5 ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน ค้นตัวพบยาบ้า จำนวน 2 เม็ด พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้น ขนาดเบอร์ 12 พร้อมเครื่องกระสุนปืน 2 นัด และนายศักดิ์ดา กรรณ์ไทย หรือเบิร์ด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/2 หมู่ที่ 5 ต.หนองหนาม อ.เมืองลำพูน ค้นในตัวพบยาบ้า จำนวน 20 เม็ด รวมของกลางเป็นยาบ้า 700 เม็ด อาวุธปืน 3 กระบอก พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งผู้ต้องหารับว่า เป็นเครือข่ายค้ายาบ้ากลุ่มของนายอุ่น
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ครอบครอง และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ ตามความผิดของแต่ละคน นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป