ตาก - เกษตรกรวอน คสช. และพ่อเมืองตาก เอาน้ำมาช่วยเกษตรกรหลังพบปีนี้ฝนน้อย กระทบอ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด เกษตรกรหวั่นพื้นที่เพาะปลูกนับพันไร่เสียหาย ชี้สาเหตุเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า ช่วงฤดูฝนปีนี้พื้นที่ชายแดนไทย-พม่าฝั่งตะวันตก ประกอบด้วย อ.แม่สอด อ.พบพระ อ.อุ้มผาง อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก มีปริมาณฝนค่อนข้างน้อย ทั้งที่ย่างเข้าสู่ปลายเดือนมิถุนายนแล้ว ซึ่งช่วงนี้ปกติฝนจะเริ่มตกหนัก และมีปริมาณมาก แต่กลับยังมีฝนน้อยผิดปกติจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด มีน้ำน้อยมากจนมองเห็นพื้นอ่าง ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรหลายแห่ง โดยเฉพาะนาข้าว และไร่ข้าวโพดขาดแคลนน้ำ แม้จะสร้างฝายชะลอน้ำ แต่อ่างเก็บน้ำไม่มีน้ำจะระบายให้เกษตรกร
ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยแม่สอด สามารถกักเก็บน้ำได้ 5.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือเกษตรกรท้ายเขื่อน 10,000 ไร่ ซึ่งโดยปกติอ่างเก็บน้ำแม่สอด จะล้น และทำให้น้ำท่วมตลาดแม่สอดเกือบทุกปี นอกจากนี้ พื้นที่ภูเขาเหนืออ่างเก็บน้ำจะเห็นสภาพป่าที่ถูกทำลายเป็นบริเวณกว้าง ขาดการดูแลจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้
เกษตรกรในพื้นที่บริการอ่างเก็บน้ำแม่สอด หวั่นว่าจะเดือดร้อนหากน้ำยังน้อยอยู่เช่นนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าต้นน้ำ โดยเฉพาะบริเวณขุนห้วยแม่สอด ที่เคยมีน้ำไหลตลอดปีลงสู่อ่างเก็บน้ำ ขณะนี้กลายเป็นภูเขาหัวโล้น ไม่มีต้นไม้เหมือนเมื่อก่อน อยากจะขอให้ คสช.และนายสมชัยฐ์ หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เข้ามาดูแลแก้ปัญหาระยะยาวคือ ร่วมมือกันปกป้องผืนป่าชายแดน โดยจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการบุกรุกป่า ตัดไม้ทำลายป่าอย่างจริงจริง ไม่เช่นนั้นป่าจะเหลือน้อย ฝนตกน้อย และอากาศจะยิ่งร้อนขึ้น เกษตรกรจะได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำ