อ่างทอง - พบ “ซุ้มประตูวัดวงษ์ภาศนาราม” ในเมืองอ่างทอง อายุเกือบ 100 ปี ถูกดินถมทับเหลือแต่ยอดซุ้มประตู ทำให้ประชาชนที่พบเห้นเป็นงง! สิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณวัดนั้นเป็นสิ่งใดกันแน่
วันนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณซุ้มประตูวัดวงษ์ภาศนาราม หมู่ 3 ต.ราชสถิต อ.ไชโย จ.อ่างทอง หลังพบว่า ซุ้มประตูวัดโดนคันดินป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถมทับซุ้มประตูทางเข้าวัดจนเกือบมิดเหลือแต่ยอดซุ้มประตูที่พ้นพื้นดินให้เห็นเพียงไม่ถึงเมตร และถูกปล่อยทิ้งไว้อยู่อย่างนั้นมานานโดยที่ไม่มีใครสนใจ จนทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมา และประชาชนที่มาทำบุญที่วัดแห่งนี้ที่ไม่รู้ประวัติความเป็นมาก็จะเกิดความสงสัยว่า “สิ่งที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดินบริเวณวัดนั้นเป็นสิ่งใดกันแน่”
จากการสอบถาม พระครูโสภณวุฒิธรรม เจ้าอาวาสวัดวงษ์ภาศนาราม เปิดเผยว่า สิ่งที่เห็นดังกล่าว คือ ซุ้มประตูของวัดที่มีอายุเก่าแก่มานานเกือบ 100 ปีแล้ว ซึ่งในสมัยก่อนวัดแห่งนี้จะมีท่าน้ำไว้ให้พระภิกษุ สามเณรพายเรือออกบิณฑบาต และชาวบ้านที่ต้องการที่จะมาทำบุญได้ใช้เป็นที่จอดเรือ เพราะสมัยก่อนเส้นทางสัญจรยังไม่เจริญ จึงต้องใช้เรือในการสัญจร
แต่ในปัจจุบัน ความเจริญมีมากขึ้น มีการตัดถนนทางด้านหลังวัดจึงทำให้ชาวบ้านเลิกนิยมเดินทางด้วยเรือ ประกอบกับหลายปีที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ขึ้น กระแสน้ำได้พัดเอาบันไดทางขึ้นหายไป ทางราชการจึงได้ทำคันกันน้ำโดยถมดินให้สูงจากเดิมหลายเมตร และทำถนนให้รถของชาวบ้านเดินทางสัญจรตามทางเลียบแม่น้ำหน้าวัด ทำให้ซุ้มประตูทางเข้าวัดอายุกว่าร้อยปีถูกดินทับถมเหลือแต่ยอดซุ้มประตูอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
นางสุทิน แป้นพงษ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.3 ต.ราชสถิต อ.ไชโย จ.อ่างทอง แม่ค้าขายขนมครกอยู่ในละแวกนั้น กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนที่นี่มาแต่กำเนิด แต่ได้ย้ายมาตั้งรกรากอยูที่นี่กับครอบครัวตั้งแต่อายุได้ 8 ปี ซึ่งตอนที่ตนมาอยู่ใหม่ก็มีซุ้มประตูทางเข้าวัดนี้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว โดยเวลาที่ตน และครอบครัวจะมาทำบุญที่วัดก็จะพายเรือมาจอดยังท่าน้ำวัดวงษ์ภาศ แล้วเดินขึ้นบันไดผ่านซุ้มประตูเข้าไปในวัด
“แต่ในปัจจุบันนี้ซุ้มประตูวัดอายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ได้ถูกดินถมจนเกือบมิดเหลือแต่ยอดซุ้มประตูเท่าที่เห็น และไม่มีใครสนใจ ถึงแม้จะมีชาวบ้านขับขี่รถผ่านไปมาทุกวันก็ตาม” นางสุทิน กล่าว