ประจวบคีรีขันธ์ - ตำรวจห้วยยาง เมืองประจวบคีรีขุนธ์ นำกำลังบุกเข้าจับ 3 ผู้ต้องหาขณะกำลังผลิต 4X100 ขายในพื้นที่ประจวบฯ แถมค้นเจอซากเลียงผา และอาวุธปืน พร้อมกระสุน คุมตัวดำเนินคดี ทั้งหมดยอมรับสารภาพ
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงศ์เวียนจันทร์ ผกก.สภ.ห้วยยาง ได้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 3 รายได้พร้อมของกลางเป็นกระท่อมทั้งใบสด และที่ต้มน้ำแล้ว พร้อมอุปกรณ์การผลิตเป็นยาเสพติดชนิด 4X100
นอกจากนี้ ยังมีซากเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนซุกซ่อนอยู่ในบ้านพัก พร้อมกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุน โดยมี พ.ต.ท.มนัส ฑิตะลำพูน รอง ผกก.สส.สภ.ห้วยาง ร.ต.ต.สุริยะ โพธิพันธ์ รองสารวัตรจราจรช่วยราชการงานสืบสวน พร้อมชุดสืบสวนจำนวนหนึ่งร่วมกันแถลงข่าว
พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงศ์เวียนจันทร์ ผกก.สภ.ห้วยยาง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ได้แก่ นายชวลิต ชาวแพรกน้อย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/2 หมู่ 1 ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายธานินทร์ สุนทโรภาส อายุ 47 ปี และนายสัญญา สุนทโรภาส อาย 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/27 หมู่ที่ 9 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งตัวเป็นพ่อค้ายา 4X100 ในพื้นที่
จึงนำกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 64/4 หมู่ที่ 1 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นบ้านแบบก่อปูนชั้นเดียว หลังที่ 2 ของนายชวลิต เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอยู่ในที่เกิดเหตุ ตรวจค้นภายในบ้านพักพบว่า ด้านข้างบ้านกำลังตั้งเตาต้มน้ำใบกระท่อมอยู่ในหม้อประมาณ 4-5 ลิตร พร้อมอุปกรณ์ในการกรองน้ำ ขวดสำหรับบรรจุยา 4X100 ได้แก่ น้ำกระท่อม อาแก้ไอ โค้ก และน้ำเปล่า ภายในบ้านพบอาวุธปืนยาวแบบอัดลม พร้อมลูกกระสุนปืนลูกกรดแบบหัวจีบจำนวนมาก และกระสุนปืน .22 อีก 14 นัด
พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบซากเลียงผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ถูกแช่อยู่ในตู้เย็น เป็นชิ้นส่วนเลียงผาที่ยังสด ได้แก่ ส่วนหัวไม่มีเขา ชิ้นส่วนโครงกระดูก และส่วนขาของเลียงผาอีก 2 ขา โดยพบว่ามีน้ำมันเลียงผาบรรจุขวดแบบต่างๆ วางซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันผลิต 4X100 ในบ้านหลังดังกล่าวจริง แต่อ้างว่า ผลิตไว้เพื่อกินกันเองเท่านั้นไม่ได้ลักลอบจำหน่าย ส่วนเลียงผาก็ไม่ได้เข้าป่าล่าเอามา แต่หาซื้อมาจากแหล่งขายโซนใต้ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นชิ้นส่วนหัว กระดูก และขา ในราคาเพียง 400 บาท เพื่อนำมาต้มผลิตเป็นน้ำมันเสียงผาสำหรับทาคลายปวดเมื่อยเป็นยาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อว่า จะผลิตเพื่อกินเองในครัวเรือน แต่เชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตเพื่อจำหน่ายให้แก่กลุ่มผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ เนื่องจากมีปริมาณน้ำกระท่อมเป็นจำนวนมาก ในขณะที่น้ำมันเลียงผาเองก็เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน จึงน่าจะผลิตเพื่อส่งขายต่ออีกทอดหนึ่ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหามีไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าสงวน โดยผิดกฎหมาย มีไว้ซึ่งยาเสพติดประเภท 5 หรือใบกระท่อม และมีไว้ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุน ไทยประดิษฐ์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลาง ส่ง ร.ต.อ.จักราวุธ กลางคาร พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป