“แท็บเล็ต” ล็อตสุดท้าย 1.7 หมื่นเครื่องถึงบุรีรัมย์ ก่อน คสช.สั่งยกเลิกโครงการ

บุรีรัมย์ - เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทั้ง 4 เขตใน จ.บุรีรัมย์ ทยอยรับมอบแท็บเล็ตเพื่อการเรียนการสอน 17,770 เครื่อง ล็อตสุดท้ายก่อน คสช.สั่งยกเลิกโครงการ ด้าน ผอ.สพป.เขต 1 เผยแท็บเล็ตที่แจกจ่ายให้นักเรียนแล้วทางโรงเรียนจะเป็นผู้บริหารจัดการเอง

วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนครูจาก 202 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 1 ได้ทยอยเดินทางมารับมอบเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ต (Tablet) ตามนโยบายโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย (One Tablet Per Child) ของกระทรวงศึกษาธิการ ภายหลังจากทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดส่งมาให้

ส่วนโรงเรียนในสังกัดอีก 3 เขตพื้นที่การศึกษาได้เดินทางไปรับมอบที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในแต่ละเขต โดยเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาหรือแท็บเล็ตที่จัดส่งมาในครั้งนี้เป็นรุ่นที่ได้รับจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปี 2556 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แต่เนื่องจากมีปัญหาบางประการในการจัดซื้อ และล็อตนี้ถือเป็นล็อตสุดท้ายที่มีการจัดซื้อและส่งมอบ เพราะทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งยกเลิกโครงการแท็บเล็ตทั้งหมดแล้ว และกำลังเล็งพิจารณาโครงการ “สมาร์ทคลาสรูม” แทนโครงการแจกจ่ายแท็บเล็ตเป็นรายบุคคล เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน

สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาที่ได้รับจัดสรรทั้ง 4 เขต รวม 17,770 เครื่อง แยกเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 จำนวน 3,863 เครื่อง, เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 จำนวน 4,841 เครื่อง, เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 5,015 เครื่อง และเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 จำนวน 3,454 เครื่อง ทั้งนี้ยังมีการสำรองแท็บเล็ตไว้ 177 เครื่อง และเหลือไว้อีก 597 เครื่องเพื่อรองรับในกรณีเครื่องมีปัญหาด้วย

นายสุพจน์ เจียมใจ ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 กล่าวว่า หลังจากทางโรงเรียนได้รับมอบแท็บเล็ตไปแล้วก็จะนำไปแจกจ่ายเด็กนักเรียนชั้น ป.2 ที่พลาดโอกาสยังไม่รับตอน ป.1 เนื่องจากติดปัญหาในการจัดซื้อ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2557 ส่วนการบริหารจัดการก็ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนจะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีโครงการแท็บเล็ตให้นักเรียนใช้เป็นสื่อการเรียนก็ได้รับการตอบรับจากนักเรียนและผู้ปกครองเป็นอย่างดี เพราะสามารถค้นคว้าหาความรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ส่วนกรณีที่อาจจะมีการยกเลิกโครงการดังกล่าว หรือเปลี่ยนเป็น “สมาร์ทคลาสรูม” แทนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่เชื่อว่าจะมีประโยชน์หรือความคุ้มค่าที่แตกต่างกันไป