สระบุรี - ผู้ว่าฯ สระบุรี ชี้แจงแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ต่อแกนนำมวลชนในพื้นที่สระบุรี พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดองเพื่อการปฏิรูป โดยผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนร่วมลงนาม
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการสร้างความปรองดองจังหวัด โดยมี พล.ต.วิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี พล.ต.ชัยยุทธ พร้อมสุข ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และแกนนำมวลชนเข้าร่วมประชุม
นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า วันนี้ ได้มีการเชิญกลุ่มแกนนำมวลชนทุกฝ่ายมาเพื่อพิจารณาแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยขอความร่วมมือทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตาม และสนับสนุนการบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทุกประการ
รวมทั้งยุติความเคลื่อนไหว หรือจัดกิจกรรมทางการเมืองที่เป็นอุปสรรต่อการบริหารราชการของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งปวง และขอความร่วมมือในการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์ ยุติการใช้ความรุนแรงต่อกัน ยุติการปลุกระดม ปลุกปั่น ต่อสู้ และสร้างความเกลียดชังต่อกัน เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ และคืนความสุขให้แก่ประชาชนทุกคน
พร้อมกับให้ทุกกลุ่มได้เสนอปัญหาข้อเสนอแนะสำหรับแก้ไขข้อขัดแย้ง หรือแนวความคิดการปฏิรูปของกลุ่มต่างๆ ข้อมูลที่ให้แต่ละกลุ่มสรุปข้อคิดเห็นมานั้น ต้องการจากทุกภาคส่วน ยิ่งลึกยิ่งดี อยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร ให้เสนอมา แยกเป็นหมวดหมู่
เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สังคมวิทยา หรือข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่ต้องการให้ทางราชการดำเนินการ เพื่อประโยชน์แก่ท้องถิ่น และประเทศชาติ รวบรวมข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะต่างๆ ส่งให้จังหวัดสระบุรี หรืออำเภอต่างๆ เพื่อรวบรวมส่งให้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ได้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดองเพื่อการปฏิรูป โดยผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนร่วมลงนาม โดยมีสาระสำคัญคือ 1.ผู้นำมวลชนมีเข้าใจเหตุผล และความจำเป็นในการเข้าควบคุมอำนาจปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และจะให้ความร่วมมือต่อทางราชการในการชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อไป
2.ผู้นำมวลชนแสดงเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติตามประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเคร่งครัด 3.ผู้นำมวลชนจะยุติความเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่สร้างเงื่อนไขแห่งความขัดแย้ง หรือการกระทำการใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ 4.ผู้นำมวลชนจะร่วมมือกับทางราชการในการเสริมสร้างความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ สร้างความสันติ และสงบสุขในหมู่ประชาชน รวมทั้งร่วมเสนอแนวคิดในการปฏิรูปประเทศด้วย
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม POC ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการสร้างความปรองดองจังหวัด โดยมี พล.ต.วิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี พล.ต.ชัยยุทธ พร้อมสุข ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ส่วนราชการเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และแกนนำมวลชนเข้าร่วมประชุม
นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่า วันนี้ ได้มีการเชิญกลุ่มแกนนำมวลชนทุกฝ่ายมาเพื่อพิจารณาแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยขอความร่วมมือทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายให้ปฏิบัติตาม และสนับสนุนการบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทุกประการ
รวมทั้งยุติความเคลื่อนไหว หรือจัดกิจกรรมทางการเมืองที่เป็นอุปสรรต่อการบริหารราชการของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งปวง และขอความร่วมมือในการเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์ ยุติการใช้ความรุนแรงต่อกัน ยุติการปลุกระดม ปลุกปั่น ต่อสู้ และสร้างความเกลียดชังต่อกัน เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ และคืนความสุขให้แก่ประชาชนทุกคน
พร้อมกับให้ทุกกลุ่มได้เสนอปัญหาข้อเสนอแนะสำหรับแก้ไขข้อขัดแย้ง หรือแนวความคิดการปฏิรูปของกลุ่มต่างๆ ข้อมูลที่ให้แต่ละกลุ่มสรุปข้อคิดเห็นมานั้น ต้องการจากทุกภาคส่วน ยิ่งลึกยิ่งดี อยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร ให้เสนอมา แยกเป็นหมวดหมู่
เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สังคมวิทยา หรือข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่ต้องการให้ทางราชการดำเนินการ เพื่อประโยชน์แก่ท้องถิ่น และประเทศชาติ รวบรวมข้อคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะต่างๆ ส่งให้จังหวัดสระบุรี หรืออำเภอต่างๆ เพื่อรวบรวมส่งให้ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ได้ดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการสร้างความรัก ความสามัคคีปรองดองเพื่อการปฏิรูป โดยผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนร่วมลงนาม โดยมีสาระสำคัญคือ 1.ผู้นำมวลชนมีเข้าใจเหตุผล และความจำเป็นในการเข้าควบคุมอำนาจปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และจะให้ความร่วมมือต่อทางราชการในการชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อไป
2.ผู้นำมวลชนแสดงเจตนารมณ์ที่จะปฏิบัติตามประกาศ และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเคร่งครัด 3.ผู้นำมวลชนจะยุติความเคลื่อนไหวทางการเมือง ไม่สร้างเงื่อนไขแห่งความขัดแย้ง หรือการกระทำการใดๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ 4.ผู้นำมวลชนจะร่วมมือกับทางราชการในการเสริมสร้างความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ สร้างความสันติ และสงบสุขในหมู่ประชาชน รวมทั้งร่วมเสนอแนวคิดในการปฏิรูปประเทศด้วย