พระนครศรีอยุธยา - นักเรียนนักเลงในเมืองกรุงเก่ายังซ่า และสร้างปัญหาให้แก่สังคมไม่เลิก ซิ่งรถ จยย.เอาก้อนหินปาใส่นักเรียนตามท้องถนน และบริเวณหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา โดยไม่หวั่นเกรงกฎอัยการศึก ด้านทหาร รอง ผอ.กอ.รมน.พระนครศรีอยุธยา ลั่นเตรียมใช้กฎเหล็กจัดระเบียบพวกนักเรียนนักเลงอันธพาล หากมีการร้องขอมาจากสถานศึกษา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) พ.ต.อ.ภูวดิษฐ์ ชนะคชภัทร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุนักเรียนนักศึกษาใช้ก้อนหินไล่ปาเด็กนักเรียนตามท้องถนน และที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ริมถนนโรจนะ ขาเข้าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบบริเวณหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา มีเพียงแม่ค้าจอดขายของ และนักศึกษาบางส่วนของวิทยาลัยยืนอยู่ด้วยอาการตกใจ
โดยนายเอ (นามสมมติ) นักศึกษาเล่าว่า ขณะยืนซื้อของอยู่มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คัน จากสะพานต่างระดับ พอถึงที่หน้าวิทยาลัยก็ระดมใช้ก้อนหินขว้างเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาที่ยืนซื้อของอยู่ ทำให้ทุกคนวิ่งหนีตายกันอลหม่าน โดยกล้องวงจรปิดหน้าวิทยาลัยสามารถจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษา 2 คน จากวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา วิ่งหนีเข้าไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ในวิทยาลัยด้วย
ต่อมา ดร.สมจิตร ศิริเสนา ผู้บริหารของวิทยาลัยฯ ได้เดินออกมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และพบ 2 นักศึกษา โดยทั้งคู่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาจากถนนโรจนะ เพื่อจะไปเรียนหนังสือ ปรากฏว่า พบกับนักศึกษาที่ขี่ จยย.ตามหลังมา แล้วพยายามแซงก่อนใช้ก้อนหินปาใส่ แต่ทั้ง 2 คน กลับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกมาได้หวุดหวิด กระทั่งมาถึงที่วิทยาลัยจึงเลี้ยวเข้ามาขอความช่วยเหลือ จากนั้นทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ได้แจ้งไปยังวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้มารับตัวนักศึกษาทั้ง 2 คนกลับไปอย่างปลอดภัย
ดร.สมจิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกวัน และครั้งนี้ทำให้เห็นว่าทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ไม่ใช่คู่อริกับสถาบันอื่นเมื่อมีนักศึกษาวิ่งเข้ามาทางวิทยาลัยก็ให้การช่วยเหลือ อยากให้ทางราชการเข้มงวดมากขึ้น
ด้าน พ.อ.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องขอทหารจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแนวทางปฏิบัติ ซึ่งทางทหารในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติในช่วงมีประกาศกฎอัยการศึก ก็จะใช้โอกาสตรงนี้เข้าไปช่วยจัดระเบียบ โดยจะไปตามที่ร้องขอเป็นช่วงๆ ตามความเหมาะสม แต่อยากให้ทางวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาทุกแห่งที่กำลังเกิดปัญหานี้มองถึงการแก้ไขปัญหาระยะยาว หากไม่มีทหารมาปฏิบัติหน้าที่จะทำอย่างไร คงต้องวางแนวทางร่วมกันด้วย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 มิ.ย.) พ.ต.อ.ภูวดิษฐ์ ชนะคชภัทร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุนักเรียนนักศึกษาใช้ก้อนหินไล่ปาเด็กนักเรียนตามท้องถนน และที่บริเวณหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ริมถนนโรจนะ ขาเข้าเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบบริเวณหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา มีเพียงแม่ค้าจอดขายของ และนักศึกษาบางส่วนของวิทยาลัยยืนอยู่ด้วยอาการตกใจ
โดยนายเอ (นามสมมติ) นักศึกษาเล่าว่า ขณะยืนซื้อของอยู่มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 3 คัน จากสะพานต่างระดับ พอถึงที่หน้าวิทยาลัยก็ระดมใช้ก้อนหินขว้างเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาที่ยืนซื้อของอยู่ ทำให้ทุกคนวิ่งหนีตายกันอลหม่าน โดยกล้องวงจรปิดหน้าวิทยาลัยสามารถจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังมีนักศึกษา 2 คน จากวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา วิ่งหนีเข้าไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ในวิทยาลัยด้วย
ต่อมา ดร.สมจิตร ศิริเสนา ผู้บริหารของวิทยาลัยฯ ได้เดินออกมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และพบ 2 นักศึกษา โดยทั้งคู่ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาจากถนนโรจนะ เพื่อจะไปเรียนหนังสือ ปรากฏว่า พบกับนักศึกษาที่ขี่ จยย.ตามหลังมา แล้วพยายามแซงก่อนใช้ก้อนหินปาใส่ แต่ทั้ง 2 คน กลับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกมาได้หวุดหวิด กระทั่งมาถึงที่วิทยาลัยจึงเลี้ยวเข้ามาขอความช่วยเหลือ จากนั้นทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ได้แจ้งไปยังวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้มารับตัวนักศึกษาทั้ง 2 คนกลับไปอย่างปลอดภัย
ดร.สมจิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นทุกวัน และครั้งนี้ทำให้เห็นว่าทางวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา ไม่ใช่คู่อริกับสถาบันอื่นเมื่อมีนักศึกษาวิ่งเข้ามาทางวิทยาลัยก็ให้การช่วยเหลือ อยากให้ทางราชการเข้มงวดมากขึ้น
ด้าน พ.อ.รณวุธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับการร้องขอทหารจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแนวทางปฏิบัติ ซึ่งทางทหารในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติในช่วงมีประกาศกฎอัยการศึก ก็จะใช้โอกาสตรงนี้เข้าไปช่วยจัดระเบียบ โดยจะไปตามที่ร้องขอเป็นช่วงๆ ตามความเหมาะสม แต่อยากให้ทางวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาทุกแห่งที่กำลังเกิดปัญหานี้มองถึงการแก้ไขปัญหาระยะยาว หากไม่มีทหารมาปฏิบัติหน้าที่จะทำอย่างไร คงต้องวางแนวทางร่วมกันด้วย
