ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมสามัคคีสมานฉันท์ เพื่อสร้างความปรองดอง และสลายความคิดเห็นแตกต่างในสังคม พร้อมร่วมลงนามความร่วมมือ “ประจวบคีรีขันธ์ สมานฉันทน์ สามัคคี”
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่วัดคลองวาฬวรวิหาร (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายปราโมทย์ สำเภาเงิน ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ตรี สิรวิชญ์ พะวงผล รอง ผอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.ธเนษ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.อ.สุรเดช ประเคนรี รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 และนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ร่วมกันชี้แจงทำความเข้าใจนโบายของคณะรักษาความสงแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้งจัดกิจกรรมสร้างความปรองดอง โครงการสามัคคี สมานฉันท์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ครั้งที่ 1 มีหน่วยงานราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำชุมชน ส.อบจ. เทศบาล อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนกลุ่มมวลชนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีการชี้แจง และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ของบ้านเมืองในปัจจุบัน ซึ่งมีความแตกแยกเป็นวงกว้าง มีแนวโน้มการเกิดความรุนแรง และมีการหมิ่นสถาบันฯ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นอันเป็นที่มาของการยึดอำนาจการปกครองของ คสช.
โดยล่าสุด คสช.ได้มีโรดแมป หรือบันได 3 ขั้น การทำงานออกมาอย่างชัดเจนคือ การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป การใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว สรรหานายกฯ ตั้ง ครม.ตั้งสภาปฏิรูป และจัดให้มีการเลือกตั้งที่เป็นที่ยอมรับ
นอกจากนี้ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วนได้ร่วมกันลงนามความร่วมมือ “ประจวบคีรีขันธ์ สมานฉันทน์ สามัคคี” พร้อมทั้งจับมือพูดคุยสร้างเพื่อความปรองดองให้เกิดขึ้น
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์ความขัดแย้ง ความคิดเห็นที่แตกต่างของชาวประจวบคีรีขันธ์ ไม่รุนแรง เชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีความเข้าใจที่ตรงกัน มีความรักสมัครสมาน เชื่อว่าชาวประจวบคีรีขันธ์ จะมีความสามัคคีไม่แพ้ที่ใด
โดยเฉพาะสิ่งสำคัญคือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ทุกคนทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือ ร่วมใจสร้างความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อคืนความสุขให้สังคมไทย น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
