ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ตำรวจภูธรภาค 4 โชว์ผลงานเด่น ตามรวมฆาตรกรโหดฆ่า 2 หญิงร่างทรง ในท้องที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้แล้ว พบเป็นพระ พร้อมลูกศิษย์รวม 3 คน เหตุขัดแย้งผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินค่าทำพิธีกรรม สุดท้ายไม่รอดถูกรวบได้ทั้งพระ และลูกศิษย์
วันนี้ (9 มิ.ย.) พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ( รรท.ผบช.ภ.4) แถลงข่าวจับกุมพระจอมขมังเวท พร้อมศิษย์เอกร่วมกันฆ่าร่างทรง ประกอบด้วย นายประสิทธิ์ ศรีบุรินทร์ หรือพระปลา อายุ 24 ปี ชาว อ.ปากชม จ.เลย และนายวรวุฒิ พินิจมนตรี อายุ 17 ปี ลูกศิษย์คนสนิท ชาว อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ผู้ต้องหาร่วมกันกระทำผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันซ่อนเร้นย้ายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ค.57 สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม รับแจ้งเกิดพบศพหญิง 2 ราย ในสภาพสวมชุดขาวปฏิบัติธรรม สวมกางเกงชั้นในสีดำ นอนคว่ำหน้าจมน้ำในลำห้วยสะพานปลาผาใหญ่ ริมถนนสายท่าอุเทน-ศรีสงคราม เขตบ้านดอนแดง หมู่ 8 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งสภาพศพทั้งสองถูกของแข็งทุบตีที่ศีรษะ ลำคอถูกมัดแน่นด้วยเชือกไนลอน
ทราบชื่อต่อมาคือ นางนฤมล แม้นสมุทรใจ อายุ 40 ปี ชาว ต.แสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และ น.ส.พิมล บุญเจริญ อายุ 39 ปี ชาว ต.บ้านเกาะ อ.เมืองสมุทรสาคร ทั้งสองเป็นร่างทรง มักมาทำพิธีกรรมต่างๆ ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งผู้ตายถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนอย่างมาก
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นร่างทรงย่าโม ร่วมกับนายประสิทธิ์ ศรีบุรินทร์ หรือพระปลา ที่ตั้งตนเป็นจอมขมังเวท และลูกศิษย์ประกอบด้วย นายวรวุฒิ พินิจมนตรี อายุ 17 ปี และนายสนธยา ศรีบุญมี อายุ 23 ปี รับทำพิธีกรรมไสยศาสตร์ ตรวจดวงชะตา แก้ดวง ทำมนต์เสน่ห์เกี่ยวกับไสยศาสตร์ทุกรูปแบบ ภายในสำนักสงฆ์วัดป่าเวชกูลนุสรณ์ ในพื้นที่บ้านอาจสามารถ หมู่ 6 ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม
หลังเกิดเหตุ นายประสิทธิ์ หรือพระปลา และลูกศิษย์ได้หายตัวไปพร้อมรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 2 กผ กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย ชุดสอบสวนจึงมั่นใจว่า เป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 จึงได้ขออนุมัติหมายจับทั้ง 3 คน และสามารถจับกุมตัวนายสนธยา ศรีบุญมี อายุ 23 ปี ได้ก่อนหน้านี้แล้ว
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เกิดขัดใจกับผู้ตาย และได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายทั้งสองจริง เนื่องจากว่าผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินค่าทำพิธีกรรมที่ตกลงไว้ จึงมีปากเสียง ประกอบกับนางนฤมล ขู่บังคับให้ทำพิธีกรรมให้อีก ตนสบโอกาสร่วมกับลูกศิษย์ วางแผนฆ่า โดยในวันเกิดเหตุขณะนั่งทำพิธีกรรมอยู่ ได้สั่งให้ลูกศิษย์ทั้งสอง ใช้ไม้ทุบตีผู้ตายจนแน่นิ่ง จากนั้นใช้เชือกไนลอนรัดคออีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองตายสนิท แล้วจึงนำร่างทั้งสองขึ้นรถยนต์ของผู้ตายนำไปทิ้งที่ห้วยลำน้ำที่เกิดเหตุ
จากนั้นร่วมกันขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป จ.เลย จอดทิ้งไว้ที่ห้วยปลาดุก อ.นาด้วง จ.เลย ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี โดยนายประสิทธิ์ และนายวรวุฒิ หลบหนีไปด้วยกัน ต่อมา ถูกเจ้าหน้าที่ติดตามกดดันมาตลอดเส้นทางหลบหนี จึงใช้อาวุธมีดชิงเอารถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ขับขี่ผ่านมาในเขต ต.ชมเจริญ อ.ปากชม จ.เลย และขับขี่หลบหนีไปยัง จ.เพชรบูรณ์ กระทั่งถูกชุดจับกุมติดตามจับกุมตัวเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.57