เชียงราย - เจ้าหน้าที่คุมตัวชาวเกาหลีเหนือกลุ่มใหญ่เป็นหญิงทั้งหมด พบนั่งเรือสินค้าล่องมาตามลำน้ำโขงจากจีน ลอบขึ้นฝั่งไทย ก่อนเดินเกาะกลุ่มกันบนถนนเลียบชายแดน หวังลี้ภัยไปเกาหลีใต้ หรือประเทศที่ 3 ต่อ
นาวาเอกภาณุ รัตนนันวาที ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือ นรข.เขตเชียงราย ร่วมกับทหารพราน ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน ลาดตระเวนตรวจตราตามริมฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนแดไทย-สปป.ลาว เย็นวันที่ 7 มิ.ย. เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบชาวต่างชาติเป็นหญิงทั้งหมดจำนวน 13 คน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ใกล้กับร้านจำหน่ายร้านน้ำเงี้ยวแห่งหนึ่ง เป็นหญิงวัยกลางคน 11 คนและเด็กหญิง 2 คน ลักษณะคล้ายชาวเกาหลีเหนือ เดินตามกันมาเป็นกลุ่มอยู่ข้างถนนสายเชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ จึงได้เข้าไปตรวจสอบ
เบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ และใช้ภาษาเกาหนีในการสื่อสารเท่านั้น เมื่อสอบถามเอกสารเข้าเมือง ก็ไม่มีแสดงให้ จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน ทราบว่า เดินทางมากับเรือสินค้าในแม่น้ำโขง เมื่อเข้าใกล้ฝั่งไทย ก็จะหลบหนีเข้าเมือง เพื่อจะขอลี้ภัยไปประเทศที่สาม หรือเกาหลีใต้ ส่วนเรือที่ไปส่งเมื่อเทียบฝั่งแล้วก็รีบออกจากฝั่งไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งด่าน ตม.เชียงแสน เพื่อดำเนินการผลักดันตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวเกาหลีเหนือที่จับกุมได้ครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นผู้หญิง และเด็ก จึงคาดว่า จะมีขบวนการที่ช่วยเหลือนำพาในการเดินทางลอบเข้าไทยอย่างแน่นอน
ชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่ง กล่าวว่าพวกเขาได้หลบหนีออกจากชายแดนเกาหลีเหนือ-จีน จากฮัมยองบุกโต จากนั้นหลบหนีอยู่ในประเทศจีนก่อนจะเดินทางลงมาจนถึงมณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด แล้วอาศัยเรือสินค้าแม่น้ำโขงในการเดินทางมายัง อ.เชียงแสน
นาวาเอกภาณุ รัตนนันวาที ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือ นรข.เขตเชียงราย ร่วมกับทหารพราน ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน ลาดตระเวนตรวจตราตามริมฝั่งแม่น้ำโขงชายแดนแดไทย-สปป.ลาว เย็นวันที่ 7 มิ.ย. เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบชาวต่างชาติเป็นหญิงทั้งหมดจำนวน 13 คน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงพื้นที่บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ใกล้กับร้านจำหน่ายร้านน้ำเงี้ยวแห่งหนึ่ง เป็นหญิงวัยกลางคน 11 คนและเด็กหญิง 2 คน ลักษณะคล้ายชาวเกาหลีเหนือ เดินตามกันมาเป็นกลุ่มอยู่ข้างถนนสายเชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ จึงได้เข้าไปตรวจสอบ
เบื้องต้นพบว่า ทั้งหมดไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ และใช้ภาษาเกาหนีในการสื่อสารเท่านั้น เมื่อสอบถามเอกสารเข้าเมือง ก็ไม่มีแสดงให้ จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวน ทราบว่า เดินทางมากับเรือสินค้าในแม่น้ำโขง เมื่อเข้าใกล้ฝั่งไทย ก็จะหลบหนีเข้าเมือง เพื่อจะขอลี้ภัยไปประเทศที่สาม หรือเกาหลีใต้ ส่วนเรือที่ไปส่งเมื่อเทียบฝั่งแล้วก็รีบออกจากฝั่งไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งด่าน ตม.เชียงแสน เพื่อดำเนินการผลักดันตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวเกาหลีเหนือที่จับกุมได้ครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นผู้หญิง และเด็ก จึงคาดว่า จะมีขบวนการที่ช่วยเหลือนำพาในการเดินทางลอบเข้าไทยอย่างแน่นอน
ชาวเกาหลีเหนือคนหนึ่ง กล่าวว่าพวกเขาได้หลบหนีออกจากชายแดนเกาหลีเหนือ-จีน จากฮัมยองบุกโต จากนั้นหลบหนีอยู่ในประเทศจีนก่อนจะเดินทางลงมาจนถึงมณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ ซึ่งอยู่ใกล้กับประเทศไทยมากที่สุด แล้วอาศัยเรือสินค้าแม่น้ำโขงในการเดินทางมายัง อ.เชียงแสน