อ่างทอง - พบกระสุนปืน 100 นัด ขนาด 5.56 MM ใช้สำหรับปืนเอ็ม 16 และอาก้า ซึ่งเป็นอาวุธสงครามวางอยู่ใต้ศาลาริมถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ทางเข้าวัดแปดแก้ว ตำบลหัวตะพาน วิเศษชัยชาญ อ่างทอง พลเมืองดีเผยเห็นรถเก๋งวีออสมาจอดก่อนมาพบกระสุน แจ้ง ตร.วิเศษชัยชาญเก็บกู้
วันนี้ (7 มิ.ย.) พ.ต.อ.พีรพันธุ์ จันทร์เทียน ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชัยยะ นาคกลิ่นกุล ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีชาว จ.อ่างทองว่า พบลูกกระสุนปืน M16 ซุกซ่อนอยู่บริเวณศาลาพักผู้โดยสารริมถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ทางเข้าวัดแปดแก้ว หมู่ที่ 1 ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นศาลาพักผู้โดยสารริมถนน บริเวณใต้ถุนศาลาพบลูกกระสุนปืน M16 บรรจุอยู่ในกล่อง ในสภาพใหม่ จำนวน 5 กล่องๆ ละ 20 นัด รวมทั้งสิ้น 100 นัด จึงทำการเก็บมาตรวจสอบยัง สภ.วิเศษชัยชาญ
จากการสอบสวนเบื้องต้น พลเมืองดี (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เปิดเผยว่า ช่วงเวลานั้นได้ขับรถออกจากบ้านเพื่อจะไปบ้านแฟนใน ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ขณะที่กำลังขับรถได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ขับมาจอดที่บริเวณศาลาดังกล่าว ดูแล้วมีท่าทีผิดปกติคือ จอดรถแล้วลงมานั่งข้างศาล าและได้เปิดไฟสูงรถไว้เพื่อทำให้คนไม่สามารถมองบริเวณนั้นได้เห็นชัด
จากนั้นพบว่าคนดังกล่าวเหมือนนำอะไรบางอย่างไปซุกไว้ใต้ถุนศาลาอย่างรีบร้อน ตนเห็นผิดปกติ จึงขับรถผ่านไปก่อนแล้วย้อนมาดูจนรถคันดังกล่าวขับออกไป จึงจอดรถ และลงไปดูบริเวณที่ศาลาพบว่า คนบนรถเก๋งดังกล่าวได้นำลูกกระสุนปืนมาซุกซ่อนไว้ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.พีรพันธ์ กล่าวว่า กระสุนปืนดังกล่าวนั้นขนาด 5.56 MM ใช้สำหรับปืนเอ็ม 16 และอาก้า ซึ่งเป็นอาวุธสงคราม จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนมองดูแล้วน่าจะเป็นการสั่งซื้อกันมากกว่าเพราะว่าไม่น่าจะเป็นการเอากระสุนปืนมาทิ้งบริเวณนี้ เพราะว่าถ้าคนที่จะเอามาทิ้งไม่จำเป็นต้องมาทิ้งบริเวณนี้ เนื่องจากบริเวณถนนเส้นนี้มืด และมีทางเปลี่ยวหลายเส้นทาง
ถ้าจะทิ้งก็สามารถทิ้งได้ทุกที่ ตนจึงคิดว่ารายนี้น่าจะเป็นการสั่งซื้อ และรอเวลาที่จะมาหยิบไป แต่เวลานั้นทางพลเมืองดีได้มาเห็นเสียก่อนจึงได้แจ้งมาทาง สภ.วิเศษชัยชาญ เพื่อให้สายตรวจไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกระสุนปืนที่พบทำบันทึกตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำไปตรวจสอบ และประสานไปยัง มทบ.ที่ 13 ลพบุรี เพื่อร่วมตรวจสอบหาที่มาต่อไป
