ศูนย์ข่าวศรีราชา - บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นำพนักงานโรงกลั่นศรีราชาและครอบครัว ชมรมจิตอาสารักษ์สิ่งแวดล้อม และนักเรียนจากชุมชนบ้านแหลมฉบัง เข้าร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลูกป่าชายเลน และทำความสะอาดป่าชายเลน ที่ชุมชนบ้านแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เผยสภาพป่าในพื้นที่ช่วง 11 ปี มีการพัฒนา และขยายเขตเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (7 มิ.ย.) บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ปลูกป่าชายเลน และทำความสะอาดป่าชายเลน ขึ้นที่ชุมชนบ้านแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยมี ดร.อดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา นำพนักงานโรงกลั่นฯ และครอบครัว รวมถึงชมรมจิตอาสารักษ์สิ่งแวดล้อมกว่า 100 คนเข้าร่วมกิจกรรม ร่วมกับนักเรียนจากชุมชนบ้านแหลมฉบังที่เข้าร่วมงานอีกกว่า 50 คน
เพื่อสร้างสมดุลคืนสู่ธรรมชาติ และปลุกจิตสำนึกให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ศรีราชา ได้มอบต้นไม้และพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่ประธานชุมชนบ้านแหลมฉบัง และตัวแทนชมรมต่างๆ เพื่อนำไปทำกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้น ถือเป็นหนึ่งในหลายกิจกรรมเพื่อสังคม ที่บริษัทได้ให้การสนับสนุน และได้รับการตอบรับจากพนักงาน และครอบครัว รวมทั้งยังเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นแก่ชุมชนอีกด้วย
ดร.อดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย กรรมการและผู้จัดการโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2546 จากสำนึกรักบ้านเกิดของคนในชุมชน ที่ต้องการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างยั่งยืน จากนั้นบริษัทเจึงได้เชิญเทศบาลนครแหลมฉบัง มหาวิทยาลัยบูรพา และประชาชนในชุมชนบ้านแหลมฉบัง ร่วมกันตั้งกลุ่ม “เยาวชนรักถิ่น รักสิ่งแวดล้อม” เพื่อพัฒนาพื้นที่ป่าชายเลน โดยมีเยาวชนเป็นจุดเริ่มต้น จากนั้นจึงจัดให้มีการเข้าค่ายฝึกอบรม เพื่อให้ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ป่าชายเลน
“เมื่อ 11 ปีก่อนป่าชายเลนของชุมชนบ้านแหลมฉบัง ยังไม่มีสภาพสมบูรณ์เช่นนี้ แต่เมื่อเกิดการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และองค์กรต่างๆ พื้นที่ป่าก็กลับคืนสภาพดีขึ้นเรื่อยๆ และในปีนี้เราได้จัดกิจกรรมที่พิเศษกว่าปีก่อนๆ คือ มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลาตีน เพื่อสร้างคุณภาพที่ดีของสิ่งแวดล้อมที่จะสังเกตได้ง่ายคือ การเข้ามาอาศัยของสัตว์ทะเล”
ทั้งนี้ หลังการเกิดขึ้นของโครงการฟื้นฟูพื้นที่ป่าชายเลน ในเขตชุมชนบ้านแหลมฉบัง ทำให้เกิดการขยายพื้นที่ป่าทางธรรมชาติอย่างเห็นได้ชัด และการปลูกป่าในปีนี้ เป็นการนำต้นตะบูน และต้นจาก เข้ามาปลูกเสริมให้แก่ต้นที่ตายไป
