ศูนย์ข่าวศรีราชา - หนุ่มแท็กซี่ตามหาภรรยาเก่าที่หนีมาแต่งงานใหม่ พบอยู่ในบ้านชักปืนยิงสามีใหม่บาดเจ็บ ขณะที่อดีตภรรยาวิ่งหนีได้ทันรอดตายอย่างหวุดหวิด ส่วนคนร้ายกลัวความผิดจุดไฟเผาบ้าน พร้อมยิงตัวเองตาย
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่หมู่บ้านดวงใจ เขตพื้นที่ ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี ร.ต.ท.อัครวินท์ นาวานิช ร้อยเวร สภ.แสนสุข ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดก่อนที่จะมีควันไฟพวยพุ่งออกมาจากตัวบ้านของ นายสมชาติ เสือชุมแสง อายุ 34 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่กับนางหทัยรัตน์ เสือชุมแสง อายุ 32 ปี ที่บ้านเลขที่ 101/78 ม.5 ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้อยู่ภายในบ้าน ส่วนที่หน้าประตูบ้านชั้นล่างพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสมชาติ เจ้าของบ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของนายสมชาติ ออกมาจากตัวบ้านพบว่า ถูกยิงที่บริเวณต้นขาขวา เป็นแผลฉกรรจ์ จึงได้รีบนำส่ง รพ.มหาวิทยาลัยบูรพา
ส่วนในเวลาต่อมา ได้พบตัวนางหทัยรัตน์ ภรรยานายสมชาติ ที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เนื่องจากตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่คาดคิดมาก่อน พร้อมเล่าให้ฟังว่า ตนอยู่กินกับนายสมชาติ มาได้ประมาณเกือบปีแล้ว โดยแต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับชายอีก 1 รายนั้น เป็นแฟนเก่าชื่อนายพิทักษ์ สาวิสัย อายุ 40 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ในพื้นที่ กทม.ที่เลิกรากันแล้ว แต่ด้วยความหึงหวง และอาฆาตแค้น และไม่ยอมเลิกรา พยายามตามหาตนกับสามีใหม่ตลอดมา ทั้งที่ตนแต่งงานใหม่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ตนได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แสนสุข ไว้ หลังที่ถูกสามีเก่าคุกคาม และพยายามตามหาและบอกว่าหากเจอเมื่อไรจะตามเอาชีวิตทั้งคู่ ซึ่งตนเกิดความกลัวจึงได้แจ้งความไว้ดังกล่าว
แต่มาวันนี้ตนไม่นึกว่า นายพิทักษ์ จะตามมาหาจนพบบ้านของตน และสามีใหม่ในช่วงเช้า ซึ่งเมื่อมาถึงไม่พูดอะไรคว้าปืนลูกซองสั้นออกมายิงใส่ประตูไปถูกนายสมชาติ ที่ขา ก่อนที่สามีใหม่จะทำทีแกล้งตาย หลังจากยิงนายพิทักษ์ แล้ว ก็วิ่งตามตนขึ้นไปชั้นบนหวังจะยิงให้เสียชีวิตตามไปด้วย แต่ตนได้วิ่งหนีออกมานอกบ้านได้ จึงทำให้นายพิทักษ์ เกิดอาการคลุ้มคลั่งจุดไฟเผาห้องนอนชั้นบนก่อนจะปิดประตูขังตัวเองในห้องพระ และยิงตัวตายหนีความผิดดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ท.อัครวินท์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องสอบปากคำผู้ที่เห็นเหตุการณ์เพื่อหารายละเอียดที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนผู้ที่ก่อเหตุยิงเองเสียชีวิตนั้นก็ต้องหาสาเหตุต่อไป