นครพนม - ลอบตัดซ้ำไม้พะยูงปลูกในเขตรั้ววัดดังนครพนม เผยมีตำรวจเฝ้าระวังแต่แก๊งมอดไม้ยังเหิม จากต้นพะยูงกว่า 200 ต้น เหลือแค่ 30 กว่าต้น ด้านป่าไม้แนะวัดทำเรื่องขอทหารติดอาวุธมาเฝ้าระวัง ก่อนจะถูกลอบตัดจนเกลี้ยงวัด
เวลา 09.00 น. วันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนมว่า ได้รับการร้องเรียนจากพระธานุสรณ์ ฐานุสรโณ อายุ 55 ปี ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดเวินพระบาทภูกระแต อ.เมือง ว่าคนร้ายเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงภายในเขตวัด บ้านนาสมดี หมู่ 11 ต.นาราชควาย ขอให้ช่วยตรวจสอบด้วย
จึงไปตรวจสอบบริเวณป่าริมถนนหน้าวัด ใกล้ป่าช้าเชิงตะกอนเผาศพ ลึกเข้าไปราว 100 เมตร พบต้นพะยูงขนาดเส้นรอบวง 50 ซม. สูงราว 15 เมตร อายุกว่า 50 ปี ถูกตัดโค่นลงเหลือแต่ตอ บริเวณโดยรอบพบร่องรอยกิ่งไม้ที่ถูกสอยออกจากต้นทิ้งไว้เกลื่อน ขณะที่ใบยังไม่แห้งเฉา คาดถูกลอบตัดลงช่วงกลางวันเมื่อวานนี้ แต่ไม่เห็นลำต้นพะยูง เชื่อว่าถูกลำเลียงออกจากป่าวัดไปแล้วอย่างรวดเร็ว
ต่อมานายวีระ มานิสสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 สาขานครพนม นายกิตติพันธ์ จันนนท์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นพ.2 (กุรุคุ) พร้อมพระ เณร แม่ชี สื่อมวลชนเดินตรวจสอบใกล้ที่เกิดเหตุและบริเวณโดยรอบยังพบต้นพะยูงหลายต้น หลังถูกแก๊งมอดไม้บุกมาลอบตัดไปแล้ว 212 ต้น คงเหลือ 38 ต้น
พระธานุสรณ์กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านนาสมดี เมื่อเวลา 09.00 น. ว่า พบรถลากและอุปกรณ์บางส่วน แต่ไม่พบพะยูงที่ถูกตัด จึงแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ เนื่องจากวันเกิดเหตุมีตำรวจจาก สภ.เมือง อปพร.ของหมู่บ้าน 6-7 คน มานอนเฝ้าในกุฏิวัดจนถึงรุ่งเช้า แต่ไม่พบเสียงผิดปกติอะไร
จนกระทั่งมีพระจันนี ผาสุวโร อายุ 63 ปี พระลูกวัดเดินสำรวจป่าเวลาต่อมา จึงพบร่องรอยไม้ถูกตัดโค่นลงอีก จึงอยากจะขอบิณฑบาตกับแก๊งคนร้ายกลุ่มนี้
ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสเล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุเมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกำลังมาเฝ้า แต่ก็ยังเหิมเกริมไม่เกรงกลัวบาป ลักลอบเข้ามาตัดอีก ทั้งที่ต้นพะยูงเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน เป็นไม้หวงห้าม แต่เน่องจากคนตัดคนขายมีโทษน้อย แต่รายได้มหาศาลจึงเกิดกิเลส จึงขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองอย่ามุ่งเน้นปราบผู้มีอิทธิพลอย่างเดียว ให้ปราบลูกน้องผู้มีอิทธิพลด้วย
"ส่วนอาตมาจะสร้างสงครามจิตวิทยา สาปแช่งด้วยการเผาพริกเผาเกลือ ให้พวกทำลายป่ากลุ่มนี้มีอันเป็นไป หรือหากจับมาดื่มน้ำสาบานได้ยิ่งดี"
น.ส.ศรันรัตน์ ศตกมลวุฒิ อายุ 28 ปี หนึ่งในญาติธรรมกล่าวว่า เมื่อวานนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อปพร.มาเฝ้าเวรยาม ตนสังเกตเห็นมีตำรวจนายหนึ่งลอบนำกิ่งไม้พะยูงยาว 2 ฟุต เส้นรอบวง 15 ซม. ก่อนจะนำไม้ขึ้นรถจักรยานยนต์ขับกลับบ้านเวลา 06.00-07.00 น.
ตนจึงโทรศัพท์ไปที่ สภ.เมือง ถามชื่อตำรวจนายนั้น ก่อนที่ตำรวจคนดังกล่าวจะรีบนำไม้พะยูงมาคืนที่วัด โดยไม่บอกกล่าวว่าจะเอาไปทำอะไร
ขณะที่นายกิตติพันธ์ จันนนท์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นพ.2 ระบุว่า ในช่วงหลังแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติ ลอบนำไม้จากพื้นที่อื่นลำเลียงมาสู่พื้นที่ชายแดนด้านจ.นครพนมไม่ได้ หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันอย่างหนัก ขณะที่กลุ่มนายทุนผู้อยู่เบื้องหลังได้รับออเดอร์เข้า จึงจำเป็นต้องมาลอบตัดไม้พะยูงที่อยู่ในวัดแห่งนี้แทน
สำหรับตอไม้พะยูงอีก 200 กว่าตอ คาดว่าหลังลอบตัดไม้ไปหมด กลุ่มคนร้ายจะมาขุดเอาตอไปชั่งกิโลขายในไม่ช้านี้ เพราะมีราคาประมาณกิโลกรัมละ 150-200 บาท
ด้านนายวีระกล่าวเพิ่มเติมว่า หากดูจากพฤติกรรมกรณีนี้แล้ว เชื่อว่าคนร้ายได้เปลี่ยนเวลา จากเคยเข้ามาลอบตัดช่วงกลางคืน เปลี่ยนมาลอบตัดกลางวันแทน จึงแนะนำให้ทางวัดทำหนังสือถึงจังหวัดทหารเนครพนม ส่งกำลังติดอาวุธมาเฝ้าระวัง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อเชิญ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน วัด ร่วมกันเดินดูตำแหน่งไม้พะยูง ก่อนกำหนดแผนบวชป่าในเร็วๆวันนี้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อป้องปราบและเฝ้าระวังก่อนที่ไม้พะยูงจะถูกลอบตัดจนหมด