พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา รวบตัวหลานพยาบาลชำนาญการโรงพยาบาลผักไห่ตัวแสบ อ้างเป็นเสือแฉะ บุกบ้านน้าพยาบาล ก่อนเอามีดจี้จับมัดกลางดึกชิงทอง มูลค่ากว่า 3 หมื่นบาท หลบหนี น้าเผยประวัติสุดชั่วก่อคดีเข้า-ออกคุกมาแล้วหลายครั้ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (2 มิ.ย.) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วารินทร์ ทองตรา ผกก.สภ.ผักไห่ ได้ควบคุมตัวนายไพโรจน์ ไพรสันต์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 3 ต.ผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาก่อคดีใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์จาก นางนงลักษณ์ พุทธคุณ อายุ 49 ปี พยาบาลชำนาญการโรงพยาบาลผักไห่ ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น พร้อมพระเหรียญหลวงพ่อเปิ่น จำนวน 1 องค์ รวมราคาทรัพย์สินประมาณ 35,000 บาทไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านเลขที่ 9/10 หมู่ 3 ต.ผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยนายไพโรจน์ ได้ปีนรั้วบ้านเข้ามาแล้วงัดหน้าต่างเอาตัวลอดเหล็กดัดเข้ามาในบ้าน จากนั้นได้ตรงเข้าไปตัดไฟภายในบ้าน ซึ่งนางนงลักษณ์ กำลังพักผ่อนอยู่ภายในห้องนอนเห็นว่าไฟฟ้าดับแต่ไฟฟ้าบ้านเพื่อนบ้าน และในห้องน้ำไม่ดับจึงคิดว่ากระแสไฟฟ้าคงช็อตจึงออกจากห้องมาดู พบคนร้ายใช้ผ้าปิดบังใบหน้าตรงเข้าเอามีดจี้ที่คอบังคับให้นอนคว่ำหน้าแล้วเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในตะกร้ามามัดมือไขว้หลัง และปิดปากนางนงลักษณ์
ระหว่างนั้น นางนงลักษณ์ เห็นดวงตา และจมูกของคนร้ายจำได้ว่าเป็นนายไพโรจน์ หลานของแม่สามี ที่เคยเลี้ยงมากว่า 10 ปี นางนงลักษณ์ จึงได้บอกไปว่า “โรจน์ ถ้าอยากได้สร้อยคอก็ถอดเอาจากคอน้าไปเลย” แต่คนร้ายได้พูดว่า “กูไม่ใช้โรจน์ กูเสือแฉะ” ซึ่งนางนงลักษณ์ ยืนยันจำเสียงคนร้ายได้อย่างแม่นย่ำว่าคือ นายไพโรจน์
จากนั้นนายไพโรจน์ จึงได้ถอดสร้อยคอทองคำพร้อมกับพระเลี่ยมทองไป และบังคับให้บอกที่ซ่อนเงินสดโดยใช้อาวุธมีดมาจ่อที่คอแล้วกรีดที่รองเท้าว่า มึงอยากตายแบบนี่ใช่ไหม นางนงลักษณ์ จึงหลอกว่าเงินสดอยู่ในกระเป๋า ระหว่างที่นายไพโรจน์ กำลังรื้อค้นทรัพย์สินภายในกระเป๋า นางนงลักษณ์ จึงได้พยายามแก้มัดจนหลุดแล้วรีบหลบเข้าไปอยู่ในห้องนอนล็อกประตูแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนร้ายจึงได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามจนสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันที
นางนงลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับนายไพโรน์ ตนช่วยแม่สามีเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเด็กๆ และเคยให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินมาหลายครั้ง จนตนแยกครอบครัวออกมา ก่อนหน้านี้ นายไพโรจน์ เคยก่อเหตุยกเค้าบ้านแม่สามีสูญเสียทรัพย์สินไปแสนกว่าบาท และพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปของวัด เพิ่งจะพ้นโทษมาได้ 10 เดือน ก็มาก่อเหตุกับตนอีก โดยที่ผ่านมาจะชอบลักเล็กขโมยน้อยขึ้นบ้านตามบ้านเครือญาติกันเอง เมื่อได้เงินจะนำเงินไปเสพยาเสพติดไม่เข็ดหลาบ
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปค้นหาจุดที่ทิ้งมีดซึ่งอยู่ตรงประตูระบายน้ำ เมื่อเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และชาวบ้านลงไปค้นหาในน้ำ ปรากฏพบอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นจึงได้คุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป