ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำกำลังเข้าตรวจสอบไม้สักและไม้กระยาเลยต้องสงสัย ทั้งที่เป็นท่อนซุงใหญ่ และแปรรูปแล้วจำนวนมากของ “น้องสาวทักษิณ” ที่วางกองเก็บไว้เต็มบ้าน ขณะที่คนดูแลนำเอกสารซื้อขายมาแสดง อ้างซื้อมา 5 ล้านบาทเตรียมใช้ซ่อมแซมต่อเติมบ้าน เบื้องต้นถูกอายัดไว้ตรวจสอบความถูกต้อง
ช่วงเช้าวันนี้ (30 พ.ค.) ทหารจากกองพลทหารราบที่ 7 มณฑลทหารบกที่ 33 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ นำกำลังเข้าตรวจสอบอายัดไม้สัก และไม้กระยาเลย ทั้งที่เป็นท่อนซุงและไม้แผ่นแปรรูป รวมทั้งที่แปรรูปเป็นวงกบ บานประตูหน้าต่างจำนวนมาก ที่วางกองอยู่ในเพิงหลังคา ในบ้านเลขที่ 39/99 บ้านคุ้มเวียงพิงค์ ในหมู่บ้านเวียงพิงค์วิลล่า อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านของนางมณฑาทิพย์ โกวิทย์เจริญกุล น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นลักษณะของไม้เก่าที่รื้อมาจากการสร้างบ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ นับจำนวน และตรวจวัดขนาดของไม้ ซึ่งพบว่าไม้ท่อนบางส่วนมีอายุหลายร้อยปี ขนาด 2-3 คนโอบ
ขณะเดียวกัน นางมณฑาทิพย์ ซึ่งไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวได้ให้คนดูแลบ้านนำเอกสารในการซื้อขายมาแสดง ซึ่งแจ้งว่าซื้อไม้ทั้งหมดมาจากจังหวัดลำพูนในราคา 5 ล้านบาท และได้ขนย้ายมากองไว้หลายปีแล้ว เพื่อเตรียมที่จะใช้ไม้ดังกล่าวซ่อมแซม และต่อเติมบ้านหลังเก่าที่อยู่ในแปลงเดียวกันนี้
ทั้งนี้ นายอภิรัฐ นพคุณ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไม้ทั้งหมดเป็นไม้บ้านเรือนเก่า เป็นไม้กระยาเลยที่ใช้งานมาแล้ว ซึ่งผู้ดูแลบ้านได้นำเอกสารสัญญาซื้อขายมาแสดง โดยซื้อมาจากร้านรุ่งตะวันไม้เก่า ซึ่งมีนางรุ่งตะวัน เนตตกุล เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ขายทอดตลาดและค้าของเก่า
เบื้องต้นจะทำการอายัดไม้ดังกล่าวไว้ตรวจสอบจำนวนและที่มา รวมทั้งจะให้ผู้เชี่ยวชาญจากกรมป่าไม้เข้ามาตรวจสอบ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3-4 วันจะดำเนินการแล้วเสร็จ
สำหรับการเข้าตรวจอายัดไม้ต้องสงสัยในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากที่ทางทหารมณฑลทหารบกที่ 33 ได้รับการร้องเรียนแจ้งเบาะแสจากประชาชนให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งวานนี้ก็ได้อายัดไม้สักจำนวนมากในที่ดินของนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายของนายสมชาย และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ในหมู่บ้านกรีนวัลเล่ย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการอายัดและตรวจสอบความถูกต้องของทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากทางกรมป่าไม้เช่นกัน