พะเยา - นักต้มตุ๋นจากเมืองลับแลหลอกลวงชาวนาในจังหวัดพะเยา อ้างเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกข้าวรับซื้อข้าวเปลือกอินทรีย์ให้ราคาสูง ชาวนาหลงเชื่อพากันโอนเงินให้สูญกว่า 6 ล้านบาท สุดท้ายไปจนมุมที่กรุงเทพฯ ตำรวจส่งตัวกลับดำเนินคดีที่พะเยา
วันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา พล.ต.ต.ภานุ บุรณศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยนายทหารผู้แทนจากจังหวัดทหารบกพะเยา ได้ร่วมกันแถลงการจับกุมนายสุริยัน วชิรวงศ์วิชาธร อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 110/14 หมู่ 5 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชนขายข้าวแล้วไม่ยอมจ่ายเงินในหลายพื้นที่ ทั้ง จ.เชียงราย และ จ.พะเยา รวมทั้งสิ้น 53 คดี เป็นเงินกว่า 6 ล้านบาท
นายสุริยัน วชิรวงศ์วิชาธร เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเดอะพุทธิพงษ์ฟาร์มมิ่ง ยูไนเต็ดอินโคออร์โปเรโตเครเชียส จำกัด มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนในการรับซื้อข้าว ล่าสุดที่ อ.จุน จ.พะเยา ได้เข้าหลอกลวงเกษตรกรที่รวมตัวกันผลิตข้าวอินทรีย์ “ศรีจอมแจ้ง”
โดยอ้างว่าหากทางกลุ่มเกษตรกรส่งข้าวเปลือกให้ทางบริษัทของตนจำนวน 50,000 ตัน ก็จะรับซื้อในราคาตันละ 20,000บาท โดยข้าวดังกล่าวจะส่งออกไปขายต่างประเทศ ตามโครงการส่งข้าวออกนอกประเทศ โดยนายสุริยันบอกว่าหากใครมีเงินสด ที่ดิน บ้าน ที่นา ให้เอาไปจำนอง ได้เงินเท่าไหร่ให้นำมามอบให้ตนเองเพื่อจะนำไปลงทุนโครงการนี้
ทั้งนี้ สัญญาจะคืนเงินภายใน 45 วัน และจะได้รับเงินคืนเป็น 2 เท่า ทำให้กลุ่มเกษตรกรหลงเชื่อ โดยมีการขายข้าวและโอนเงินให้บริษัทดังกล่าวเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 6.2 ล้านบาท พอครบกำหนด 45 วันเกษตรกรไปทวงถาม นายสุริยันกลับบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ได้ให้สัญญาไว้ กลับยังมีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปลี่ยนชื่อและที่อยู่ไปเรื่อยๆ และเมื่อถูกทวงถามก็บอกว่าเงินสดยังไม่ครบ ขอจ่ายเป็นเช็คธนาคารกรุงไทยสาขาปากน้ำโพ และสาขาเชียงคำแทน แต่ธนาคารกลับปฏิเสธการจ่ายเงิน เนื่องจากไม่มีเงินในบัญชี สุดท้ายนายสุริยันได้หลบหนีไป กลุ่มเกษตรกรผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จุน ให้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยมีผู้ร้องทุกข์รวม 53 คดี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนะสงคราม กรุงเทพฯ จับกุมตัวนายสุริยันได้ก่อนส่งมอบตัวให้ สภ.จุนดำเนินคดี เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพและยินดีจะคืนเงินให้ทุกราย โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ และออกเช็คเพื่อชำระหนี้โดยเจตนาไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น”
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพะเยา และ สภ.ดอกคำใต้ยังจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้อีก 3 ราย เป็นเยาวชน 1 ราย ได้ของกลางยาบ้า 2,128 เม็ด และยึดทรัพย์เป็นรถยนต์เก๋ง 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ