ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อ “สหฟาร์ม” โคราชเดือดร้อนหนัก บุกศาลากลางจังหวัดขอความช่วยเหลือจากผู้ว่าฯ หวั่นไม่ได้รับเงินหลังสหฟาร์มเจ๊งขาดสภาพคล่องและกำลังเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ เผยสหฟาร์มติดหนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่โคราช 115 ราย กว่า 88 ล้านบาท
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่บริเวณประตูทางเข้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการฟาร์มไก่เนื้อในระบบพันธสัญญา (คปกพ.) จ.นครราชสีมา กว่า 50 คน นำโดย นายบรรเจิด แก้วกำเนิด, นายชิดพงษ์ ขวดพุดทรา และ นายถวิล จงนอก ได้เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมหลังจากไม่ได้รับเงินจากการเลี้ยงไก่ให้กับ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด รวมกว่า 88 ล้านบาท โดยได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเพื่อส่งต่อไปยังผู้มีอำนาจให้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่
นายบรรเจิด แก้วกำเนิด แกนนำเครือข่ายผู้ประกอบการฟาร์มไก่เนื้อในระบบพันธสัญญา จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากบริษัท สหฟาร์ม จำกัด ผู้ประกอบกิจการส่งออกและผลิตไก่สดแช่แข็งครบวงจร ได้ปิดกิจการโรงงานชำแหละไก่ 2 แห่งในพื้นที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ และ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2556 ซึ่งบริษัทฯ อ้างว่าประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง
ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อในระบบพันธสัญญากับบริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้นไลน์ บิสซิเนส จำกัด กว่า 1,000 รายในพื้นที่ 13 จังหวัดได้รับผลกระทบจากการที่บริษัทค้างจ่ายกว่า 610 ราย มียอดหนี้ 384 ล้านบาท โดยเป็นเกษตรกรใน จ.นครราชสีมาจำนวน 115 ราย มียอดหนี้กว่า 88 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ค้างการจ่ายเงินมาตั้งแต่ปลายปี 2555 เป็นเวลากว่า 20 เดือนแล้ว
จากปัญหาดังกล่าวทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากขาดทุนหมุนเวียน ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ บางรายถูกฟ้องร้อง ถูกยึดทรัพย์ บางรายต้องรื้อโรงเรือนเลี้ยงไก่ขายเพื่อนำเงินมาจ่ายหนี้ เกิดปัญหาภายในครอบครัว และไม่มีการจ้างงานในชุมชน
นายบรรเจิดกล่าวต่อว่า ล่าสุดทราบข่าวทั้ง 2 บริษัทกำลังจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท เอินส์ทแอนด์ยัง จำกัด โดยจะมีการไต่สวนในวันที่ 26 พ.ค.นี้ วันนี้ทางกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ใน จ.นครราชสีมาในฐานะเจ้าหนี้ของบริษัทจึงรวมตัวกันมาพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาให้ดำเนินการช่วยเหลือ และขอเรียกร้องให้ธนาคารกรุงไทยในฐานะผู้ดูแลการฟื้นฟูกิจการกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร่งด่วน และเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วยว่าเกษตรกรอยู่ในลำดับเจ้าหนี้ที่เท่าไหร่
ต่อมา นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงมารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมรับปากจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ต่อไป
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา เพื่อส่งต่อไปยังผู้บริหารของธนาคารในการให้ความช่วยเหลือก่อนสลายการชุมนุม
