ชุมชนท่าบ่ออุบลฯ จี้จังหวัด-เทศบาลแจระแม หยุดขุดดินทำแก้มลิง

อุบลราชธานี - กลุ่มชาวบ้านท่าบ่อ อ.เมือง เดินหน้าค้านโครงการขุดลอกทำแก้มลิง จี้จังหวัด-เทศบาลส่งช่างสำรวจผู้รับเหมาขุดดินออกไปขายเกินแบบก่อสร้างหรือไม่ สุดท้ายจังหวัดส่งช่างและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พร้อมให้ผู้รับเหมาระงับไว้ชั่วคราว หากผิดจริงพร้อมแจ้งความเอาผิดร่วมกับชาวบ้าน

จากกรณีชาวบ้านชุมชนท่าบ่อ หมู่ 2 ต.แจระแม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประท้วงปิดถนนห้ามรถแบ็กโฮเข้ามาขุดเอาดินจากที่สาธารณประโยชน์ไปขาย โดยจังหวัดอ้างเป็นโครงการปรับภูมิทัศน์และทำแก้มลิง รองรับน้ำในฤดูน้ำหลากตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ค.) ชาวบ้านชุมชนท่าบ่อที่ได้รับผลกระทบจากโครงการขุดดิน นำโดยนายไกรวุฒิ เสมอภาค นำเต็นท์มากางกีดขวางไม่ให้รถบรรทุกดินและรถแบ็กโฮเข้ามาขุดดิน เพราะชาวบ้านเกรงว่าเมื่อถึงฤดูน้ำหลากอาจจะทำให้ดินสไลด์ บ้านเรือนที่อยู่ใกล้ที่ตั้งโครงการพังเสียหาย จากนั้นได้เคลื่อนขบวนยื่นหนังสือเรียกร้องให้เทศบาลเมืองแจระแม ส่งช่างโยธาตรวจสอบแบบแปลนก่อสร้างและขุดดินในบริเวณดังกล่าว ว่าตรงตามสเปกหรือขุดดินออกไปเกินกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาหรือไม่

พร้อมทั้งให้ประสานแจ้งจังหวัดที่เป็นเจ้าของโครงการให้หยุดขุดดินจนกว่าจะทำประชาคมให้เสร็จเรียบร้อย ซึ่งผู้บริหารเทศบาลแจระแมรับปากดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องขอมา

จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อยื่นหนังสือต่อนายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกร้องให้หยุดโครงการ และให้ผู้รับเหมาขนย้ายเครื่องจักรกลออกไปจากพื้นที่เพื่อทำประชาคมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ซึ่งการขุดดินกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของชาวบ้านเพราะไม่สามารถไปประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ทั้งนี้ นายคันฉัตรกล่าวว่า จะส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงไปดูข้อเท็จจริงร่วมกับชาวบ้าน ระหว่างนี้จะให้ผู้รับเหมาหยุดดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อยุติทำให้ชาวบ้านพอใจ แต่ยืนยันว่าหากพบผู้รับเหมาทำผิดสัญญา มีการขุดดินออกไปมากกว่าแบบแปลนก่อสร้าง จะร่วมกันไปแจ้งความเอาผิดผู้รับเหมารายที่เป็นนักการเมืองในพื้นที่ด้วย

สำหรับพื้นที่ดังกล่าวติดต่อกับลำห้วยแจระแม ที่รองรับน้ำจากชุมชนตำบลขามใหญ่ ก่อนไหลลงมารวมกันที่ลำน้ำมูลน้อย และเป็นพื้นที่น้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก แต่ในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมามีกลุ่มนายทุนเข้าไปขุดดินออกไปใช้ถมที่ทำศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ และพื้นที่เอกชนตามโครงการพัฒนาต่างๆ เมื่อมองจากมุมสูงจะกลายเป็นบ่อดินขนาดใหญ่

ต่อมาจังหวัดนำโครงการแก้มลิงเข้ามาใช้เป็นข้ออ้างขุดดินออกไป สร้างความเดือดร้อนแก่ชุมชนที่อาศัยอยู่บริเวณรอบข้าง กระทั่งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้เข้ามาศึกษาด้านผลกระทบต่อชุมชน และเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557 กลุ่มเครือข่ายธรรมาภิบาลตำบลแจระแม ได้จัดทำเอ็มโอยูร่วมกับหน่วยงานราชการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมจัดการที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยนางสาวปลิดา สิทธิธรรม ลงนามในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลแจระแม และนายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัด ลงนามในฐานะสักขีพยาน แต่ก็ยังมีการละเมิดข้อตกลงจนนำมาสู่การประท้วงครั้งนี้