กาฬสินธุ์ - เครือข่ายอีสานล้านนาจังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 500 คนชุมนุมแสดงพลังริมถนนสายหลักกาฬสินธุ์ โชว์ปิดถนนหนึ่งช่องทางจราจร ชี้เป็นคำเตือนเพื่อต้านนายกฯ มาตรา 7 ให้ทุกฝ่ายฟังเสียงคนเสื้อแดงอีสาน หาก 27 พฤษภาคมมีนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งพร้อมเคลื่อนพลบุกกรุงเทพฯ แน่
วันนี้ (19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กาฬสินธุ์ว่า ที่ริมถนน ต.ห้วยโพธิ์ ถนนสายหลักของจังหวัดไป จ.ร้อยเอ็ด เครือข่ายกลุ่มเสื้อแดงอีสานล้านนากาฬสินธุ์กว่า 500 คน รวมพลฟังการปราศรัยแนวทางการต่อต้านนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 โดยมีนางบุญรื่น ศรีธเรศ นายพีระเพชร ศิริกุล อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 และเขต 4 พรรคเพื่อไทย นายทินพล ศรีธเรศ นายอุทิศ พรมสิทธิ์ แกนนำคนเสื้อแดง และนายเอกพงษ์ ศรีโคตร นายกเทศมนตรีตำบลห้วยโพธิ์ อ.เมือง ร่วมกันจัดเวทีและปราศรัย พร้อมแสดงป้ายคนกาฬสินธุ์ต่อต้านนายกรัฐมนตรีคนกลาง ประกาศว่าพร้อมที่จะสู้กับผู้ที่ละเมิดสิทธิของประชาชน
นางบุญรื่นกล่าวว่า วันนี้เครือข่ายคนเสื้อแดงอีสานจะร่วมกันต่อสู้ในนามกลุ่มคนอีสานล้านนา ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์นั้น ตัวแทนที่ผ่านการประชุมที่ จ.อุดรธานีจะลงพื้นที่ทำความเข้าใจแนวทางการต่อสู้ เพราะเชื่อมั่นว่าคนอีสานไม่ต้องการนายกฯ มาตรา 7 และยังยืนยันที่จะให้มีการเลือกตั้งเพราะเป็นสิทธิของประชาชน
โดยเฉพาะในวันที่ 27 พฤษภาคม ซึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ประกาศจะปฏิวัตินั้น ขอยืนยันว่ากลุ่มอีสานล้านนากาฬสินธุ์จะร่วมต่อต้านกลุ่มอำมาตย์ให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ หลังจากปราศรัย กลุ่มอีสานล้านนากาฬสินธุ์ได้แสดงพลังด้วยการปิดถนนสายหลัก 1 ช่องทาง เป็นการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ว่า หากมีการยึดอำนาจประชาชน กลุ่มคนอีสานก็จะร่วมกันเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อทวงคืนอำนาจอธิปไตยเช่นกัน
ด้านนายเอกพงษ์กล่าวว่า ในฐานะที่ดูแลท้องถิ่นนั้น ขอยืนยันว่าความต้องการของพี่น้องประชาชนคนอีสานในพื้นที่พร้อมที่จะสนับสนุนคนเสื้อแดงหากมีนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 เพราะถือเป็นการทำลายอำนาจอธิปไตยของประชาชน ที่ต้องการให้แก้ปัญหาด้วยการเลือกตั้งตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ และหากมีการตั้งนายกฯ มาตรา 7 ถือเป็นการมัดมือประชาชน จึงไม่มีความชอบธรรม
และขอให้ผู้ที่คิดจะปฏิรูปประเทศด้วยการหานายกฯ คนกลางได้ทบทวน เพราะเชื่อว่าหากเกิดขึ้นจริง คนเสื้อแดงก็จะเข้ากรุงเทพฯ และจะมีการนองเลือดแน่นอน
สำหรับการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ กลุ่มอีสานล้านนากาฬสินธุ์ได้ประกาศตัวที่จะเดินหน้าทำการชี้แจงปัญหาบ้านเมืองผ่านเวทีการติดตามของประชาชนในพื้นที่ เพราะส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางไปที่ถนนอักษะ กรุงเทพฯ จึงได้มีการเปิดเวทีคู่ขนาน
และจะติดตั้งโปรเจกเตอร์ให้ประชาชนได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปราศรัยที่กรุงเทพมหานคร เพื่อรอคำสั่งเข้าไปชุมนุมใหญ่อีกครั้ง
