ตราด - เกิดพายุงวงช้างพัดบ้านเรือนในหลายตำบลของจ.ตราดเสียหายเกือบ 80 หลัง และเรือจม 1 ลำ
วันนี้ (18 พ.ค. ) เกิดพายุงวงช้างที่คลองมะโร ต.ไมู้ด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นเวลานานและเคลื่อนที่ไปหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก ในหลายตำบล
จากการตรวจสอบของ นายกฤตภาส ศรีแสงขจร รองนายก อบต.ไม้รูด พบว่า บ้านของ นางธนภรณ์ พานิช เลขที่ 116/2 หมู่ 5 และของนายจตุวิทย์ กระชุน อายุ 29 ปี หมู่บ้านเดียวกันที่เปิดเป็นร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลังและบ้านเรือนชาวบ้านใกล้เคียง 3-4 หลัง ได้รับความเสียหายเช่นกัน และมีทรัพย์สินประกอบด้วย โทรทัศน์ 9 เครื่อง เครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ
นอกจากนี้ พายุงวงช้างยังทำให้เรือวางอวนกุ้ง ของนายกิตติศักดิ์ เกษี ชาวบ้านคลองตะเคียน ต.ไม้รูด ที่ออกไปวางอวนกุ้งทำให้เรือจม พร้อมอวนอีก 40 หัว เครื่องยนต์ 1 เครื่อง หายไป รวมทั้งตัว นายกิตติศักดิ์ เกษี ต้องลอยคออยู่ในทะเลนาน 3 ชั่วโมง จนเรือประมงมาช่วยเหลือได้ที่เกาะหัวเขาแมว และยังไมสามารถหาเรือและทรัพย์สินได้
ขณะที่ ต.อ่าวใหญ่ อ.เมืองจ.ตราด ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันได้เกิดพายุงวงช้างขึ้น และพัดบ้านเรือนที่บ้านอ่าวช่อ ต.อ่าวใหญ่ ได้รับความเสียหายจำนวน 6 หลัง ใน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 2 พัง 3 หลัง 1 หลังเสียทั้งหมด อีก 2 หลัง หลังคาเปิด ส่วนหมู่ 3 หลังคาหลุดหายไปบางส่วนรวมจำนวนกว่า 200 แผ่น
ทั้งนี้ นายรางวัล ขันแข็ง นายก อบต.อ่าวใหญ่ ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ และสำรวจความเสียหายพร้อมช่วยเหลือประชาชนแล้วในเบี้องต้น โดยเฉพาะบ้านที่เสียหายทั้งหลังเป็นของ นางยุวดี สถิตเสถียร ที่อยู่ไม่ได้ ทาง อบต.อ่าวใหญ่ ได้หาที่พักอาศัยชั่วคราวให้
ส่วนที่ ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ก็เกิดพายุงวงช้างเช่นกัน ทำให้บ้านเรือนเสียหายจำนวนมากในหลายหมู่บ้าน นายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายก อบต.แหลมกลัด ได้รายงานให้ทางอำเภอเมืองตราดได้เข้าไปช่วยเหลือ และมีนายสุรพล เธียรไทสง ผู้ช่วย ปภ.ตราด เดินทางไปสำรวจความเสียหายและบันทึกข้อมูลเพื่อใหความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายประกอบด้วย หมู่ 1 จำนวน 4 หลัง หมู่ที่ 2 จำนวน 5 หลัง หมู่ 3 จำนวน 7 หลัง หมู่ 4 จำนวน 15 หลัง หมู่ 5 จำนวน 12 หลัง หมู่ 7 จำนวน 4 หลัง หมู่ 8 จำนวน 3 หลัง และหมู่ 10 จำนวน 11 หลัง รวมมีผู้ประสบภัย 170 คน บ้านเรือนรวม 57 หลัง ส่วนความเสียหายทั้งหมดยังไม่สามารถสรุปได้
นายสุรพล ศรีแสงขจร กล่าวว่า วาตภัยที่เกิดขึ้นในระยะนี้เป็นช่วงที่เกิดพายุโซนร้อนที่เกิดเป็นปกติในช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาลจากหน้าร้อนเป็นหน้าฝน และการเกิดครั้งนี้เกิดเป็นวงกว้าง ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ที่หนักสุดประมาณ 10 กว่าหลัง ที่เหลือพอซ่อมแซมได้ และทาง ปภ.ตราด จะเข้าไปช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม น่าจะมีความเสียหายมากกว่านี้ แต่ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจเกิน 80 หลังได้