กองทุนเผยแผ่พุทธวจน จัดงาน “รัก ศรัทธา ตถาคต 2557” พร้อมเปิดตัวหนังสือ “พุทธวจน-ปิฎก” ทำขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก หวังช่วยเผยแพร่คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง
นายประจวบ ไชยสาส์น ประธานกองทุนเผยแผ่พุทธวจน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะบุคคลผู้มีความรัก และศรัทธา ในการตรัสรู้ของพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน “รัก ศรัทธา ตถาคต 2557” หรือ “BB World 2014” ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อช่วยสนับสนุนการเผยแแพร่คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถูกต้อง คือ “พุทธวจน” เพื่อประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ และเกิดความศรัทธา
ทั้งนี้ ภายในงานนอกจากมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานมากว่า 5,000 ที่นั่ง ยังมีคณะพระภิกษุผู้ต้องการร่วมแสดงความกตัญญูต่อตถาคต ผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง Modern 9 TV ร่วมกันรับฟังบทเพลงสรรเสริญพระพุทธเจ้า ที่หยิบยกเอาคำสอนจากพระโอษฐ์มาเป็นบทเพลงครั้งแรก
นายประจวบ กล่าวว่า ภายในงานได้รเปิดตัวหนังสือ “พุทธวจน-ปิฎก” ซึ่งจัดทำขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก โดยความคิดริเริ่มจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ร่วมกับคณะสงฆ์วัดนาป่าพง และผู้มีจิตอาสาอีก 400 คน ใช้เวลาในการรวบรวมเกือบ 10 ปี และอาจารย์คึกฤทธิ์ได้โปรดเมตตาแสดงธรรม “ความลับของสังสารวัฏ” แล้วพบกับ “สุดยอดเด็กอัจฉริยะของโลกพบพุทธวจน” จึงเกิดแรงบันดาลใจสานต่อภารกิจการเผยแผ่พุทธวจน
สำหรับหนังสือ “พุทธวจน-ปิฎก” เป็นหนังสือที่รวบรวมคำสอนของพระศาสดา ที่ล้วนแต่มีคำของผู้ที่ต่ำกว่าศาสดา (คำสาวกหรือคำแต่งใหม่) เข้าไปปะปนอยู่ด้วยทั้งสิ้น ทำให้เกิดความยากที่จะศึกษา แยกแยะ ว่าคำใด คือ คำที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์ จึงเป็นเหตุที่ต้องทำหนังสือที่รวบรวมแต่คำสอนของพระศาสดาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นขึ้นมา เพื่อการดำรงไว้ซึ่งพระสัทธรรมอันบริสุทธิ์ เป็นอะกาลิโกที่ตรัสจากพระโอษฐ์โดยตรง ซึ่งจะง่ายต่อการศึกษาและสืบค้น การเทียบเคียง และการตรวจสอบความถูกต้อง เพราะพระองค์ยืนยันว่าคำพูดของพระองค์นั้นสอดรับไม่ขัดแย้งกัน ชซึ่งเป็นหลักที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องในคำสอนของตถาคต และยังเป็นเหตุปัจจัยที่พระองค์ได้รับการขนานนามว่า “ตถาคต”
ทั้งนี้ กองทุนเผยแผ่พุทธวจน ถือกำเนิดขึ้นโดยกลุ่มบุคคลที่เล็งเห็นประโยชน์จากพระธรรมคำสอน เพื่อทำโครงการดีๆ มีประโยชน์ต่อการช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องตามแบบพุทธวจน ขณะเดียวกัน ยังต้องการเชิญชวน และรณรงค์ให้ชาวพุทธกลับได้รู้จัก และศึกษาว่าพระศาสดาของตนเองสอนเรื่องอะไรบ้าง มีความสำคัญอย่างไร แล้วทำไมต้อง “พุทธวจน” ทำไมพระพุทธเจ้าต้องตรัสรู้ และพระพุทธองค์ตรัสรู้เรื่องอะไรเมื่อ 2,600 ปีที่ผ่านมา โดยหันกลับมา “พึ่งตน พึ่งธรรม ไม่เอาสิ่งอื่นเป็นสรณะ”