ญาติผู้เสียชีวิตกระบะวีโก้ชนเสาไฟฟ้าคาใจทรัพย์สินสูญหายขณะไปรับคืนจากตำรวจ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ญาติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถกระบะยี่ห้อวีโก้ชนอัดก๊อบปี้กับเสาไฟฟ้า บริเวณหน้าค่ายทหารบางพระ ฝั่งขาเข้าชลบุรี คาใจหลังไปรับทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เงินเกือบแสนบาทสูญหาย ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯและตำรวจร่วมนับในที่เกิดเหตุ

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถกระบะยี่ห้อวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผท 2575 ชลบุรี ชนอัดก๊อบปี้กับเสาไฟฟ้าบริเวณหน้าค่ายทหารบางพระ ฝั่งขาเข้าชลบุรี หมู่ 2 ตำบลบางพระ ภายในรถมีนางสาวแหม่ม แซ่เหียง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/50 หมู่ 2 ตำบลตะเคียนเตี้ย อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เสียชีวิต โดยผู้ตายมีทรัพย์สินติดตัวจำนวนมาก ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ 1 เส้น, สร้อยข้อมือ 1 เส้น แหวนทองคำ 2 วง เงินสด 252,790 บาท

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (17 พ.ค.) นางจำปา อารมณ์เจริญ น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังเกิดอุบัติเหตุพี่สาวเสียชีวิต ทางญาติได้เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง จากนั้นเดินทางไปรับทรัพย์สินของพี่สาวที่เสียชีวิตที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา โดยนำเอกสารที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชาให้ไป เพื่อไปรับกับร้อยเวรเจ้าของคดี

สำหรับผู้ที่เดินทางไปรับ คือ บุตรชายกับน้องสาวผู้ตาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบกระเป๋าซึ่งบรรจุทรัพย์สินทั้งหมดที่หน่วยกู้ภัยฯ และเจ้าหน้าที่ตรวจนับในจุดเกิดเหตุมอบให้ จากนั้นได้เดินทางกลับ แต่เมื่อมาถึงบ้านได้นำทรัพย์สินออกมานับดู พบว่าเงินสดในกระเป๋าไม่ตรงกับยอดที่แจ้งไว้ประมาณ 80,000 บาท ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับญาติผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก

นางจำปา กล่าวต่อว่า ในความเป็นจริงแล้วทางญาติก็เกิดความผิดพลาดเล็กน้อย เนื่องจากไม่ได้ตรวจนับทรัพย์สินดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเมื่อรับกระเป๋าก็เดินทางกลับบ้านในทันที แต่เมื่อมาตรวจนับและไม่ตรงก็เสียความรู้สึกเล็กน้อย แต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร เพราะเงินได้สูญหายไปแล้ว โดยจะไปกล่าวโทษใครก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้เห็นกับตา เพียงแต่เอกสารที่หน่วยกู้ภัยฯให้มาไม่ตรงกันเท่านั้น จึงเป็นเรื่องคาใจเท่านั้น

“ฉันไม่อยากไปโทษใครว่าเอาเงินดังกล่าวไป แต่ใครเอาเงินนั้นไปก็คงรู้แก่ตัว เพียงถ้าแต่ได้เงินจำนวนดังกล่าวมาก็จะนำมาใช้ในงานศพเท่านั้น” นางจำปา กล่าว

ด้าน นายอาทิตย์ วัฒนา ประธานหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา กล่าวถึงกรณีเงินของผู้เสียชีวิตสูญหายไปนั้น ทางหน่วยกู้ภัยฯยืนยันว่าทางกู้ภัยฯไม่ได้เอาไปอย่างแน่นอน เพราะขั้นตอนการนับทรัพย์นั้น มีหลายฝ่ายร่วมกันนับ โดยหากร้อยเวรเจ้าของคดีไม่สั่ง ทางหน่วยกู้ภัยฯก็ไม่สามารถกระทำได้ ส่วนการนับทรัพย์สินนั้น มีตำรวจทางหลวง, ตำรวจศรีราชา และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ หลังจากร่วมกันนับเสร็จก็ได้ส่งมอบให้กับร้อยเวรเจ้าของคดีในทันที เพื่อนำไปเก็บรักษาเพื่อมอบให้กับญาติต่อไป

สำหรับเงินที่ญาติของผู้เสียชีวิตสงสัยว่าไม่ครบ หรือไม่ตรงตามจำนวนที่ระบุไว้นั้น ทางหน่วยกู้ภัยฯไม่ทราบ ซึ่งต้องขึ้นอยู่ระหว่างขั้นตอนที่นำเงินไปก่อนส่งให้ญาติของผู้เสียชีวิตรับไป โดยจะต้องตรวจสอบในช่วงนั้น แต่ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯไม่ได้เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน