กาญจนบุรี - ผบก.เมืองสุพรรณบุรี สั่งระดมกำลังตำรวจนำหมายค้นบุกเข้าจับ “รองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง” ในอำเภอเดิมบางนางบวช ได้พร้อมอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก หลังได้เบาะแสมีพฤติกรรมค้าอาวุธปืนเถื่อนสวมทะเบียนมานาน ขณะที่เจ้าตัวยังปิดปากเงียบ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (15 พ.ค.) พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุพรรณบุรี ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ว่า นายจารศักดิ์ สดคมขำ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249 หมู่ 3 ต.หัวนา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี มีพฤติกรรมค้าอาวุธปืนเถื่อนสวมทะเบียน
หลังจากได้รับรายงานจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวจนเป็นที่แน่ชัดว่าเป็นความจริง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา รอง ผกก.สส.สภ.เดิมบางนางบวช พ.ต.ต.เสนีย์ เวชพัฒน์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ภ.จว.สุพรรณบุรี พร้อมกำลังนำหมายค้นศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบ นายจารศักดิ์ สดคมขำ อยู่ที่บ้านจึงได้แสดงหมายค้นให้ดู จากนั้นจึงทำการตรวจค้นภายในบ้าน จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนชนิดต่างๆ รวมทั้งเครื่องกระสุนปืนหลายชนิดจำนวนมากอยู่ภายในบ้าน จึงคุมตัว นายจารศักดิ์ พร้อมของกลางมาที่ สภ.เดิมบางนางบวช
สำหรับอาวุธปืนประกอบด้วย อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 2 นัด อาวุธปืนพกสั้นขนาดต่างๆ 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนรวมกัน 26 นัด โดยพบว่า อาวุธปืนลูกซองยาว 2 กระบอก มีใบทะเบียนปืน และหมายเลขตรงกันทั้ง 2 กระบอก
พล.ต.ต.ชัชชรินทร์ สว่างวงศ์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี เฝ้าติดตามดูพฤติกรรม นายจารศักดิ์ มาโดยตลอด เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายว่า นายจารศักดิ์ เป็นถึงรองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง มีลูกศิษย์ให้ความเคารพเป็นจำนวนมาก แต่กลับมีพฤติกรรมกระทำผิดกฎหมายด้วยการลักลอบค้าอาวุธปืนเถื่อน เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรีได้
สำหรับอาวุธปืนที่ยึดมาได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่า อาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 2 กระบอก มีทะเบียน และหมายเลขประจำปืนตรงกันทั้ง 2 กระบอก ส่วนอาวุธปืนพกสั้นอีกจำนวน 4 กระบอก อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ซึ่งตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าอาวุธปืนทั้งหมดได้มาด้วยวิธีการใด และใครเป็นผู้ครอบครอง รวมทั้งสั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่ตรวจสอบว่า พื้นที่ใดเคยก่อเหตุอาชญากรรมหรือไม่ เพื่อจะนำอาวุธปืนไปพิสูจน์ หากพบอาวุธปืนกระบอกใดเคยนำไปก่อเหตุมาก่อนก็จะดำเนินคดีต่อ นายจารศักดิ์ ให้ถึงที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม นายจารศักดิ์ ยังไม่ให้การแต่อย่างใด ซึ่งก็เป็นสิทธิ และสามารถนำทนายมาร่วมรับฟังการสอบสวนได้ หากไม่มีทนาย เจ้าหน้าที่ก็จะจัดหาให้หาก นายจารศักดิ์ ต้องการ เพื่อความเป็นธรรม และจะได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของ นายจารศักดิ์ ให้ทราบต่อไป